ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

คนรักความยุติธรรม
  • .image
    ไฟล์แนบ
    ศรีปราชญ์.jpg 56K
  • :-q 555+ เพื่ออะไรคับ สังคมเค้ารู้กันหมดแล้ว. ว่าคุนเป็นยังไง. 555
  • ฉันเข้ามาเล่นบอร์ดนี้

    ฉันมีความสุข ที่ได้ บอกเล่า เรื่องราว ของฉัน กับหมาที่ฉันเลี้ยง กับงานที่ฉันทำ

    บอกเล่าเป็นตัวหนังสือ ผ่านเวปนี้

    ฉัน ได้ รู้จัก คน มากมาย ได้ลูกค้าจากเวปนี้ ก็หลายครั้ง หลายคน

    ฉัน พูด คุย กับใคร หลาย ๆ คน ให้ความช่วยเหลือ ตามกำลังที่ฉันช่วยได้

    แต่ คน ที่ฉันนับเป็น เพื่อน มีเพียง ไม่กี่คน

    เพราะฉัน ถือว่า อันเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา

    ฉัน ได้รับการดูถูกเหยียดหยาม จาก ใครบางคน โดยการโพส ลงในบอร์ดนี้

    ฉัน เงียบ หาย ไม่เอาเรื่องเอาราว เพราะฉันเห็นแก่ คำว่า เพื่อน

    โดยเฉพาะ เพื่อน ที่ชื่อ มาร์ค มาเฟีย

    ฉัน ได้รับคำท้า จากมาเฟีย ว่า ป้าพร ไม่แน่จริง นี่หว่า แน่จริง ฟ้องเลย จะคอยดู

    ณ วันนี้ ฉันกำลังดำเนินการอยู่ ใครที่ยังไม่รู้ตัวว่า การด่า การดูหมิ่น คนอื่น ผ่านทางเวปนั้น สามารถทำได้ ไม่ผิด กฎหมาย

    ขอบอกว่าคุณ คิดผิด

    ฉันเปิด กระทู้ นี้ขึ้นมา ฉันบอก มาเฟีย เรียบร้อยแล้ว ว่า งานนี้ ฉันเอาแน่

    ขอขอบคุณ hg_infinity มาณ ที่นี้ด้วย ที่ฉันไม่ต้องไปลากกระทู้อื่นมาเกี่ยว



    image
    ไฟล์แนบ
    cardA.JPG 24K
  • กรณีความผิดทางอาญา ในการหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต จะมีความผิดตามมาตรา 326 ที่บัญญัติว่า "ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่ทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมื่น หรือ ถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ"

    ความรับผิดทางอาญา และทางแพ่งมีข้อแตกต่าง ประการสำคัญทีสุด คือ หากข้อความที่กล่าวเป็นเรื่องเท็จ ผู้กระทำจะมีความผิดทางอาญา และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง แต่ถ้าข้อความที่กล่าวเป็นจริง ผู้กระทำจะมีความผิดทางอาญา แต่ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง
  • ดังนั้น ผู้กระทำการหมิ่นประมาท จะมีความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา กล่าวคือ การหมิ่นประมาทนั้น ผู้กระทำผิดจะมีความหมายทางแพ่ง ฐานละเมิดตาม ประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 ซึ่งมีหลักการสำคัญ คือ ผู้กระทำได้กล่าว หรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความที่ขัดต่อความเป็นจริง เป็นผลให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ

    นอกจากนี้การหมิ่นประมาท ยังถูกบัญญัติให้เป็นความผิดหนึ่ง ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ซึ่งลักษณะการกระทำคือ ผู้กระทำความผิดได้ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง การพิจารณาข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทในทางอาญานั้น อาจเป็นความจริง หรือเท็จก็ได้ดังที่เคยมีคำกล่าวว่า "ยิ่งจริงยิ่งผิด" เพราะกฎหมาย มุ่งพิจารณาแต่เพียงว่าถ้ามีการกล่าวถึงบุคคลอื่น ในด้านที่ไม่ดีแล้ว ย่อมจะทำให้สังคมไม่สงบสุข ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นจริงหรือไม่


    การหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ตสามารถฟ้องร้องเอาผิดได้หรือไม่ สามารถฟ้องร้องได้ทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง โดยอาญานั้นยิ่งจริงยิ่งผิด ไม่สามารถยอมความได้ 1 คำหมิ่นประมาท คิดเป็นหนึ่งบทลงโทษ 100 คำหมิ่นประมาท(ต่อคน) ก็บวก ลบ คูณ หารกันเอาเอง
  • .image
    ไฟล์แนบ
    เรียกให้สองแสบ.jpg 47K
  • ใคร ที่ทำให้ ฉัน ต้อง ถูกเหยียด หยาม จาก สังคม พิทบูลโซน

  • ป้า ไหนๆก็ใกล้สิ้นปีแล้ว อยากให้แง่คิดกับป้าสักเล็กน้อยนะครับ

    สิ่งที่เราควบคุมได้ก็คือปัจจัยภายในของตนเอง สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ก็คือปัจจัยภายนอก เราห้ามความคิดใครไม่ได้หรอกครับ
    ดังนั้นป้าอย่าไปคาดหวังเลยว่า คนอื่นจะต้องคิดเหมือนเรา เห็นด้วยกับเรา สิ่งที่ป้าโดนผมว่ามันเล็กน้อยมาก
    ผมอยากให้ป้าสบายใจ จะได้เที่ยวปีใหม่อย่างมีความสุข ถ้าป้ายังหงุดหงิด ผมอยากให้ป้าดูผมเป็นตัวอย่างนะครับ

    ผมโมโหเต็มที่ก็วันสองวัน หลังจากอารมณ์ดีแล้วผมก็ลืม อย่าไปเก็บเอามาคิด เราก็สบายใจ

    ด้วยความปราถนาดี และขอบคุณที่ป้ามองว่าผมยังเป็นเพื่อนครับ :039:
  • เมื่อ ฉัน ออก มา บอกว่า มาเฟีย เป็นเพื่อน ในยามที่มาเฟีย มีปัญหา

    ฉัน ได้รับคำถามจาก ผู้หวังดี หลายคน เตือนฉันมา

    ว่า ฉัน เกาะ กระแส มาเฟีย เพื่ออยากดัง อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร

    ฉันตอบไปว่าคนอย่างฉัน ไม่จำเป็นต้องเกาะ กระแสใคร และไม่ตกเป็นเครื่องมือ ให้ใคร ทำร้ายกัน

    สามวันที่ฉันร่างคำฟ้อง คนที่ดูถูก เหยียดหยามฉัน

    ฉัน เตือน ล่วงหน้าแล้ว ว่า ฉัน ไม่ยอมแล้วนะ

    ของขวัญปีใหม่ ของฉัน ก็คือ บอกให้คนที่หยามเกียรติ ฉัน ได้รับรู้ ว่า ผล จะเป็นเช่นไร

    ถึงเวลานี้ มันสาย ไปแล้ว ที่จะกล่าว คำว่า ขอโทษ



  • กฎหมายหมิ่นประมาท และ กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550

    ใครที่นั่งหน้าจอคอมพ์ชอบโพสต์ข้อความบนอินเตอร์เน็ต ควรต้องรู้กฎหมายประดับตัวพอสมควร เพราะถ้ามีเรื่องขึ้นมา จะไปอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือศาลท่านไม่รับฟังทั้งสิ้น

    การโพสต์ข้อความบนอินเตอร์เน็ตต้องระมัดระวังให้มาก และเตือนตัวเองเสมอว่า กำลังยืนอยู่หน้าประตูคุก เพราะถ้าไปโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทบุคคลอื่นเข้า ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดี หรือฟ้องร้องต่อศาลดำเนินคดีอาญาได้

    การดำเนินดคีกับผู้กระทำผิดหมิ่นประมาทคนอื่นนั้นไม่ยาก เพราะนอกจากมีกฎหมายอาญามาตรา 328 ระบุความผิดแล้ว ก็ยังมีกฎหมายคอมพิวเตอร์ ปี 2550 สนับสนุนอีกแรง ทำให้สาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้อย่างง่ายดาย คือ รู้ข้อความหมิ่นประมาท รู้ตัวผู้กระทำผิด รู้สถานที่ที่กระทำความผิด รู้หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รู้เวลาและคาบเวลาที่กระทำความผิด ฯลฯ...ทุกอย่างชัดเจนหมด ดิ้นไม่หลุด !!

    ผู้กระทำความผิดหมิ่นประมาทบุคคลอื่น หรือกระทำความผิดอาญาอื่นๆบนอินเตอร์เน็ตสามารถถูกจับกุม หรือถูกฟ้องร้องดำเนินตดีได้อย่างง่ายดายที่สุด...ตรงนี้จึงขอเตือนทุกท่านได้โปรดระมัดให้จงหนัก..!!

    วันนี้มีความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นประมาทและกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาฝากกัน เพื่อจะได้ไม่มือไวใจไว ขาดความยั้งคิด กระทำผิดกฎหมาย โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทคนอื่นเข้า

    การหมิ่นประมาทผู้อื่นบนอินเตอร์เน็ต ไม่ต่างอะไรกับการหมิ่นประมาทผู้อื่นบนหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะใช้ตัวบทกฎหมายอาญามาตรา 328 เดียวกัน แต่การหมิ่นประมาทบนอินเตอร์เน็ตจะมีกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 สมทบเข้ามา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสาวถึงผู้กระทำผิดได้ถูกตัวถูกคน

    คดีหมิ่นประมาท เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายสามารถดำเนินการได้สองทาง คือ แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือดำเนินคดีเองด้วยการตั้งทนายฟ้องร้องต่อศาล

    ในการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจจะมีหมายเรียกผู้กระทำผิดหรือผู้ถูกกล่าวหามาพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ถ้าไม่มา ตำรวจก็จะออกหมายจับ ขั้นตอนตำรวจนี้อยู่ในชั้นสอบสวน

    เมื่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จ ก็จะส่งสำนวนไปอัยการเพื่อดำเนินการฟ้องร้อง จากอัยการ คดีก็จะขึ้นสู่ศาล ทุกขั้นตอนของคดี คือ ชั้นสอบสวน ชั้นอัยการ และชั้นศาล ผู้กระทำผิด หรือผู้ถูกกล่าวหา จะต้องประกันตัวทุกขั้นตอน

    แต่โดยมาก เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทมักจะให้ทนายดำเนินการฟ้องร้องเอง เพราะค่อนข้างยืดหยุ่น และมีลูกเล่นลูกชนมากกว่า !!
    หากเจ้าทุกข์ผู้เสียหายจะแจ้งความ ก็มักเป็นการแจ้งความเพื่อยืดอายุคดี ผลของการแจ้งความ อายุความคดีหมิ่นประมาทจะยืดออกไป จาก 3 เดือนกลายเป็น 5 ปึ !!

    การฟ้องร้องคดีหมื่นประมาทในทางอาญา ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้ทนายมือดีทำงานให้ มีลูกเล่นลูกชนมาก จำเลยจะ"โคตะระ"เหนื่อย และอาจเกิดอาการประสาท"แด๊ก"เอาง่ายๆ เพราะเห็นประตูคุกเปิดอ้ารำไร...!!

    ผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาท นอกจากจะสามารถฟ้องร้องผู้กระทำผิดในทางอาญาแล้ว ก็ยังสามารถฟ้องร้องทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้อีกโสดหนึ่งด้วย
  • การฟ้องแพ่งพ่วงเข้ามา ก็คงคล้ายการ "ขายเบียร์แถมเหล้า" ได้กำไรอีกต่อ บางคดีผู้เสียหายมีต้นทุนทางชื่อเสียงและธุรกิจสูง ก็จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นร้อยล้าน !!

    ในการดำเนินคดีหมิ่นประมาทบนหน้าหนังสือพิมพ์และบนอินเตอร์เน็ตในทางอาญา สามารถทำได้ทั่วประเทศ เพราะสื่อทั้งสองชนิดนี้แพร่ไปทั่วประเทศ การฟ้องร้องดำเนินคดีจึงสามารถทำได้ตั้งแต่เหนือสุดยันใต้สุดของประเทศไทย

    จะฟ้องที่เชียงราย ที่ปัตตานี หรือที่นราธิวาส..ย่อมได้ทั้งนั้น !!

    ถ้าเขียนข้อความหมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ก็ถือเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ สามารถนำไปแยกฟ้องได้ อาจจะฟ้องเหนือสุดที่เชียงรายแห่งหนึ่ง ใต้สุดที่ปัตตานีหรือนราธิวาสแห่งหนึ่ง และภาคอีสานที่อุบลฯอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า ฟ้องครบทั่วทุกภาค

    ที่สุดสนุกก็คือ การฟ้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นแหละ ระเบิดและกระสุนปืนสงครามแถวนั้นชุกชุม ทหารตำรวจที่ว่าแน่ๆยังผวา...ไม่มีใครอยากถูกย้ายไปที่นั่น !!

    ถ้าผู้กระทำผิดถูกฟ้องต่างกรรมต่างวาระ...ต้นเดือนขึ้นศาลภาคใต้ กลางเดือนขึ้นศาลภาคเหนือ และปลายเดือนขึ้นศาลภาคอิสาน...มีช่วงว่างเวลาสับหลีกเพียงแค่ 10 วัน

    จำเลยรวย...รวยคดี !! เดือนๆไม่ต้องทำมาหากินอะไร เอาแต่เดินตามตูดทนายขึ้นศาลลูกเดียว!!

    การฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาหมิ่นประมาท จำเลยต้องไปศาลทุกนัด แต่โจทก์ไม่จำเป็นต้องไปทุกนัด ทนายจะทำหน้าที่แทน บางครั้งทนายโจทก์ก็ดัน"ป่วย"ขึ้นมาซะอีก จำเลยจึงเดินทางไปฟรี หรือไปเก้อ !! เสียค่าเดินทาง เสียค่าที่พัก เสียเวลาทำมาหากิน

    และอาจถึงขั้นเสียประสาท !! ถ้าหากโจทก์ผู้เสียหายไม่ยอมความ ประสงค์จะดำเนินคดีถึงที่สุด งานนี้ถ้าโจทก์ผู้เสียหายได้ทนายมือดีทำงานให้ จำเลยที่หมิ่นประมาทเขา ก็จะตกอยู่ในฐานะล่อแหลม ยืนพิงประตูคุกอยู่ครับ !!

    ในการฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิดหมิ่นประมาทใส่ความคนอื่นบนหนังสือพิมพ์ อันเป็นสื่อสาธารณะ จะใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328

    ส่วนการหมิ่นประมาทบนอินเตอร์เน็ต นอกจากจะใช้มาตรา 328 นี้แล้ว ก็ยังใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์2550 พ่วงเข้ามาอีกฉบับ เพื่อ"ล็อกเป้า" ผู้กระทำความผิด ให้ดิ้นไม่หลุด!!

    ครับ...ถูกตัว!! ถูกคน!! หนีไม่พ้น !! และปฏิเสธไม่ได้ !!
  • สื่อหนังสือพิมพ์เป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกธรรมดาๆ ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษชัดเจนโทนโท่ ไม่มีอะไรซับซ้อนในการนำสืบ

    แต่บนจอคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมันซับซ้อนกว่า ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทจะถูกแพร่ออกไปชนิดไร้พรมแดน เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจากต้นทางถึงปลายทาง โดยที่ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทนั้นแพร่ไปทั่วโลกและทั่วเมืองไทย

    มาดูประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 กันก่อน กฎหมายมาตรานี้กล่าวไว้ว่า...

    มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท

    ดังนั้น การเขียนหรือโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทบุคคลอื่นบนอินเตอร์เน็ต ล้วนเข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 328 นี้ทั้งนั้น นี่เป็นข้อแรก

    ข้อต่อมาที่เราควรต้องรู้ก็คือ อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ แพร่ไปทั่วโลกและทั่วประเทศไทย แต่เพราะผลของการบังคับใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 ยังผลให้การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทจากต้นทางถึงปลายทาง สามารถย้อนรอยสาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้ ชนิดดิ้นไม่หลุด !!

    กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 26 กล่าวไว้ว่า... ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษา ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปี เป็นกรณีพิเศษ เฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้

    ผู้ ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการ และต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง

    ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา....

    กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 26 บังคับให้"ผู้ให้บริการ"คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง จะต้องบันทึกและรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า traffic data ไว้ทั้งหมด

    และ traffic data นี่แหละครับ จะสาวถึงตัวผู้กระผิด !!

    "ผู้ให้บริการ" ตามนัยยะกฎหมายคอมพิวเตอร์ ครอบคลุมกว้างขวางมาก ได้แก่ บรรดา ISP ทั้งหมด หน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชนทุกแห่งที่จัดตั้งและให้บริการเครือข่าย Internet ทั้งที่ใช้สายเคเบิ้ล และไร้สาย

    หน่วยงานราชการ บริษัทห้างร้านเอกชน องค์การต่างๆ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร ร้านคาเฟ่ สนามบิน ฯลฯ ที่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เข้าข่าย "ผู้ให้บริการ"ทั้งสิ้น

    สรุปง่ายๆก็คือ ที่ไหนมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ต กฎหมายคอมพิวเตอร์ถือเป็น"ผู้ให้บริการ" มีหน้าที่ต้องบันทึกและเก็บรักษา traffic data ไว้ทั้งหมด มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย