ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

8 อันดับโรคของสุนัขที่ต้องระวัง
  • 1.โรคไข้หัด
    โรคนี้เกิด จากเชื้อไวรัส มักเกิดกับลูกสุนัขอายุน้อย ๆ ตั้งแต่ 2-3 เดือน บางครั้งก็พบว่าเกิดใน สุนัขที่โตแล้วเมื่อสุนัขเป็นโรคนี้โอกาสที่จะหาย นั้น มีน้อยมาก โดยอาการของมันก็แสดงออกมาทางอาการประสาท ตัวกระตุก หรือชักตลอดชีวิตส่วนใหญ่แล้วตาย อย่างทรมาน อาการของโรค เราสามารถสังเกตได้จากการที่สุนัขมีน้ำมูกสีเขียวไหลย้อย ดูเหมือน ปอดบวม มีไข้ เบื่ออาหาร ซึมมีตุ่มหนองขึ้นที่ใต้ท้อง มีขี้ตาสีเขียวๆเกอะกรังตลอดเวลาเมื่ออาการทวีความรุนแรงขึ้นจะพบว่ามีอาการทางประสาท คือปากสั่น กระตุก และลามไปที่บริเวณหนังหัว ใบหน้า ขาหลัง อาจจะพบบริเวณฝ่าเท้า กระด้างขึ้น บางรายพบว่ามีท้องร่วงร่วม เราสามารถป้องกันได้โดยฉีดวัคซีน ป้องกันโรคไข้หัดได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่อายุ 2 เดือน เป็นเข็ม แรกหลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน ก็พาไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เป็นการ กระตุ้นภูมิคุ้มกันและฉีดซ้ำทุก ๆ ปี ปีละ 1 ครั้ง
  • 2.โรคปอดบวม
    โรคนี้จะพบมากในสุนัขเล็ก ๆ และสุนัขที่มีอายุมากแล้วเนื่องจากว่า สุนัขในวัยดังกล่าวมีภูมิคุ้มกันที่น้อยอยู่โรคนี้เกิดจากหลายสาเหตุได้แก่เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย พยาธิทำลาย ปอด ทำให้ปอดอักเสบ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สุนัขจะมีอาการซึม มีไข้สูงมาก อาจถึง 106 องศาฟาเรนไฮต์เบื่ออาหาร จนถึงไม่กินอาหาร ชอบหลบไปนอนในที่เย็น ๆ เช่น ห้องน้ำ ข้างโอ่งหายใจกระหืดกระหอบ มีขี้มูกไหลออกมามีสีขาวจนถึงสีเขียวข้น บางครั้งมี อาเจียน ไอ มีเสลดหนาในลำคอบางตัวเป็นมาก ๆน้ำท่วมปอดต้องนั่งตลอดเวลานอนไม่ได้ หายใจไม่ออกบางครั้งต้องหายใจทางปากเนื่องจากจมูกอุดตันไปด้วยน้ำมูก ข้อควรปฏิบัติคือ รักษาความสะอาด ให้ความอบอุ่น โดยเฉพาะที่คอ หน้าอก และหลัง ปูรองพื้นที่นอนด้วยผ้า อย่าให้นอนในที่เย็นหรืออับชื้นหรือโดนฝนสาด และนำสุนัข ไปพบสัตว์แพทย์เพื่อรักษา
  • 3.โรคพาร์โวไวรัส หรือลำไส้อักเสบ
    โรคพาโวไวรัสหรือลำไส้อักเสบเป็นโรคที่มีการระบาดทั่วโลก สามารถเกิดการ ระบาดได้ง่ายรวดเร็วและรุนแรง สุนัขจะตายเนื่องจากเกิด ท้องร่วงอย่างรุนแรง อาเจียนไม่กินอาหาร มีไข้ สูง ร่างกายสูญเสียน้ำมาก ทำให้ตายอย่างรวดเร็วโรคนี้พบมาในสุนัขอายุ 2-6 เดือน หลังจากได้รับเชื้อโรคไปแล้วประมาณ5-7 วัน สุนัขจะไม่กินอาหาร มีไข้สูง ๆ ต่ำๆ แสดงอาการอาเจียนบ่อย ต่อมาไข้ขึ้นสูง นอนซึม หมดแรงเพราะอาเจียนอย่างมาก เริ่มมีอาการท้องร่วง ถ่ายออกมาเป็นน้ำเหลวสีโอวัลตินหรือสีแดง มีเลือดปนออกมามีกลิ่นเหม็นคาวมาก ไวรัสจะ เข้าไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ช็อคตายได้อย่างรวดเร็ว โดยปกติโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง เพียงแต่รักษาตามอาการที่พบเท่านั้น ทางที่ดีควรหา ทางป้องกันจะดีกว่า โดยการฉีดวัคซีนตั้งแต่ลูกสุนัขอายุได้ 2 เดือน และกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยฉีดวัคซีนอีกครั้งเมื่ออายุได้ 3 เดือน หลังจากนั้นก็ฉีดกระตุ้นทุกปี ปีละ1 ครั้ง
  • 4.โรคหัด หรือ ดิสเทมเปอร์
    โรคไข้หัด หรือดิสเทมเปอร์ เป็นโรคที่ฮิตติดอันดับสำหรับโรคสุนัขโรค หนึ่ง โรคนี้เกิด จากเชื้อไวรัส มักเกิดกับลูกสุนัขอายุน้อย ๆ ตั้งแต่ 2-3 เดือน บางครั้งก็พบว่าเกิดใน สุนัขที่โตแล้วเมื่อสุนัขเป็นโรคนี้โอกาสที่จะหาย นั้น มีน้อยมาก โดยอาการของมันก็แสดงออกมาทางอาการประสาท ตัวกระตุก หรือชักตลอดชีวิตส่วนใหญ่แล้วตาย อย่างทรมาน อาการของโรค เราสามารถสังเกตได้จากการที่สุนัขมีน้ำมูกสีเขียวไหลย้อย ดูเหมือน ปอดบวม มีไข้ เบื่ออาหาร ซึมมีตุ่มหนองขึ้นที่ใต้ท้อง มีขี้ตาสีเขียวๆเกอะกรังตลอดเวลาเมื่ออาการทวีความรุนแรงขึ้นจะพบว่ามีอาการทางประสาท คือปากสั่น กระตุก และลามไปที่บริเวณหนังหัว ใบหน้า ขาหลัง อาจจะพบบริเวณฝ่าเท้า กระด้างขึ้น บางรายพบว่ามีท้องร่วงร่วม เราสามารถป้องกันได้โดยฉีดวัคซีน ป้องกันโรคไข้หัดได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่อายุ 2 เดือน เป็นเข็ม แรกหลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน ก็พาไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เป็นการ กระตุ้นภูมิคุ้มกันและฉีดซ้ำทุก ๆ ปี ปีละ 1 ครั้ง
  • 5.โรคพิษสุนัขบ้า
    -เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ เรบี้ส์ (Rabies) ไวรัสชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในระบบประสาทมากที่สุด มันจะทำให้สุนัขมีอาการทางประสาท ทำให้เราเรียกว่าบ้า นอกจากสุนัขแล้ว เชื้อไวรัสนี้ยังสามารถติดต่อคน และสัตว์อื่นได้ ถ้าโดนสุนัขที่มีเชื้อกัด อาการสุนัขนี้แบ่ง ออกได้เป็น 2 แบบ คือ/ แบบดุร้าย และ แบบซึม
    -อาการซึมของสุนัขจะไม่แสดงอาการดุร้ายออกมานอกจากเราพยายาม จะจับหรือเข้า ใกล้ มันอาจจะขู่หรือกัดได้ สุนัขจะหลบซ่อนตามซอกมุมหรือ ไม่ออกมากินน้ำ อาหาร ลิ้นจะห้อยออกมา น้ำลายไหลตลอดเวลา
    -ส่วนอาการแบบดุร้าย สามารถแบ่งออกได้ 3 ระยะ ระยะเริ่มแรกอารมณ์และอุปนิสัยของสุนัขเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีอารมณ์ หงุดหงิดอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย รูม่านตาจะขยายมากกว่าปกติ อาการเริ่มแรก จะแสดงอาการประมาณ 2-3 วัน จะเริ่มเข้าสู่ระยะที่ 2หรือระยะตื่นเต้นเป็นระยะที่แสดงอาการกระวน กระวาย ระบบประสาทตอบสนองอย่างฉับไวและรุนแรงต่อเสียงหรือสิ่งกระตุ้น ต่อมามันจะเริ่มกระวนกระวาย กัดสิ่งที่อยู่รอบตัว บางครั้งรุนแรงจนเลือดออก แล้วเริ่มวิ่งอย่างไร้จุดหมาย แสดงอาการบ้าอย่างชัดเจน เสียงเห่าหอนผิดปกติ เนื่องจากการเกิดเกิดอัมพาตของ กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเคี้ยวและการกลืน ต่อมาอาการอัมพาตจะขยายและเป็นทั้งตัว และตายไปในที่สุด โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้เราต้องป้องกันล่วงหน้า โดยการฉีดวัคซีนเมื่อสุนัขอายุ 3เดือนขึ้นไป และฉีดซ้ำทุก ๆ ปี ถ้าเป็นสุนัขที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน หากนำไปฉีดแล้ว ต้องฉีดซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 3 เดือน จากนั้นก็ฉีดซ้ำทุก ๆ ปี
  • 6.โรคเห็บหมัดสุนัข
    อากาศในบ้านเราเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเห็บและหมัด เห็บที่อยู่ตามตัว สุนัขสามารถ ไข่ได้ครั้งละหลายพันฟองตามพื้นดิน หรือตามซอกต่าง ๆ เห็บมีอยู่ 2 ประเภท
    1.พวกตัวแบนสีน้ำตาล
    2.ตัวโตบวมคล้ายลูกเกตุ
    ทั้งคู่เป็นชนิดเดียวกัน เพียงแต่พวกแรกเป็นตัวผู้ พวกที่สอง เป็นตัวเมียในตัวเมียจะมีไข่หมัดอยู่เต็ม ต้องห้ามบีบเนื่องจากจะเป็นการทำให้ไข่หมัด แพร่กระจายให้นำหมัดและเห็บแช่ในน้ำมัน จะทำให้มันตาย สุนัขบางตัวจะมีการแพ้น้ำลายเห็บ,หมัดทำให้มีการแพ้ที่ผิวหนังและเห็บ, หมัดยังเป็นพาหะ นำโรคพยาธิในเม็ดเลือดมาแพร่ได้เราจะสามารถพบหมัดได้มากบริเวณ ลำคอ,หู,ง่ามนิ้วเท้า.ไหล่ หน้าอก การป้องกันเห็บ,หมัดทำได้โดยอาศัยยาฆ่าเห็บที่มีขายทั่วไป โดยให้ใส่ที่ตัวสุนัข และบริเวณ ที่สงสัยว่าจะเป็นที่วางไข่และยังมีอุปกรณ์ป้องกันเช่น ปลอกคอกันหมัดและแชมพูอาบน้ำสุนัขก็ ยังสามารถฆ่าเห็บและหมัดได้ด้วย
  • 7.พยาธิไส้เดือน
    พยาธิไส้เดือนหรือที่เรียกกันว่า พยาธิตัวกลมนั้นอาศัยอยู่ในลำไส้สุนัข ขนาด ยาวประมาณ 2-3 นิ้วเราจะพบมากในลูกสุนัข คอยแย่งอาหารที่ได้รับการย่อยแล้ว ทำให้สุนัขไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ สุนัขจะดูท้องโตเหมือนกินอิ่ม บางครั้งพยาธิก็มีมากจนตันลำไส้ทำให้ สุนัขตาย การติดต่อของพยาธิชนิดนี้สามารถติดต่อได้โดยสุนัขกินไข่พยาธิเข้าไป หรือ ถูกชอนไชผ่านทางผิวหนัง พยาธิสามารถติดต่อสู่ลูกสุนัขได้ทางกระแสเลือดของแม่ไปสู่ลูกหรือติดต่อผ่านทาง น้ำนมการป้องกันทำได้โดยถ่ายพยาธิก่อนการผมพันธุ์ และช่วงท้ายของการตั้งท้อง หลังจากลูก เกิดมาได้2-3 อาทิตย์ ก็ให้ถ่ายพยาธิ และถ่ายพยาธิทุก ๆ 2-3 เดือน
  • 8.พยาธิไส้เดือน
    เป็นอาการโรคทางผิวหนัง โดยอาการของโรคนี้คือ สุนัขมีอาการคันขนร่วงคันตามผิวหนังบางตัวขนกลางหลังจะร่วง หรือร่วงหมดตัวสาเหตุของโรคนี้ เกิดจาก เห็บ หมัด อาการแพ้จากโรคพยาธิหัวใจการขาดฮอร์โมนบางชนิด แต่สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากพยาธิผิวหนังเราสามารถให้สัตว์แพทย์ตรวจสอบได้ โดยสัตว์แพทย์จะขูดผิวหนังบริเวณที่เป็นไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุ พยาธิที่ทำให้เกิดโรคเรื้อนมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน

    1.เชื้อซาคอปติค เป็นขี้เรื้อนแห้ง ขนสุนัขจะร่วง ตกสะเก็ดแห้งเร็ว ถ้าเป็นแบบนี้รักษาได้ ไม่ยาก
    2. ขี้เรือนที่อยู่ในต่อมน้ำเหลือง ที่รากโคนขน เกิดจากเชื้อดีโมเด็กซ์ หรือที่เรียก ขี้เรื้อนเปียก การรักษาขี้เรือนแบบนี้ทำได้ยาก การรักษาโรคนี้ต้องใช้เวลาในการรักษาและต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี
  • :063: ได้ประโยชน์มากคับ
  • ของผมเป็นทั้งหัดกับลำไส้อักเสบครับ ตอนนี้อาการดีขึ้นมาก แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยความมืดแทน แต่ผมว่าหมาผมเป็นหมาfinalนะ โกงความตาย :-D
  • :063: รู้กันเอาไว้ก่อน ป้องกันง่าย แต่แก้ยาก :033:
  • สาระดีๆที่ต้องเข้ามาสนับสนุน :063: :063: :063: เยี่ยมครับ

  • แถมให้อีกหนึ่งโรคครับ โอกาสน้อยแต่อาจเกิดได้
    โรดแท้งติดต่อครับ ตอนนี้ที่เชียงใหม่ลำพูน มีการตรวจพบโรคนี้ระบาดอยู่
    แต่เจอกับไซบีเรียนนะครับ เพราะในกลุ่มที่รับผสมไซบีเรียนจะกำหนดว่าต้องตรวจก่อนผสม
    แต่ทุกพันธุ์มีโอกาสเป็นได้ ไม่มีวัคซีนป้องกันในสุนัข และรักษาไม่หาย สามารถติดต่อได้ถึงคน
    เมื่อเป็นโรคนี้สุนัขจะแท้งลูก สามารถเป็นได้ทั้งตัวผู้ และตัวเมืย
    โดยถ้ามีการผสมกับสุนัขที่มีเชื้ออยู่ก็จะติดต่อกันไปเรื่อยๆครับ
    มีสุนัขหลายพันธุ์ที่มีโอกาสเสี่ยง หนึ่งในนั้นคือพิทบูลด้วยครับ

  • :063: @คุณ KRIT_CMU ขอบคุณครับ แต่มันมีสาเหตุมาจากอะไรล่ะครับ รบกวนช่วยหาให้นิดนึงครับฝากด้วยนะครับ อยากรู้อ่ะครับ
  • โรคแท้งติดต่อเกิดจาก Bacteria ที่ชื่อว่า Brucella โดยในปัจจุบันมี 4 species คือ
    Brucella abortus มีการระบาดในโค กระบือ
    Brucella melitensis มีการระบาดในแพะ แกะ
    Brucella suis มีการระบาดในสุกรเกือบทั่วโลก
    Brucella canis พบในสุนัข

    โรคนี้จะถูกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า บรูเซลโลซีส (Brucellosis) หรือเรียกสั้นๆ ว่า โรค “บรู” ได้ เชื้อนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1966 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่าเชื้อนี้เป็นสาเหตุของการแท้ง และทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์พันธุ์ในฟาร์มสุนัขฟาร์มหนึ่ง ต่อมาก็พบการระบาดของเชื้อนี้ในประเทศอื่นๆ เกือบทั่วโลก
    อาการของสุนัขที่เป็นโรคนี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาความไม่สมบูรณ์พันธุ์ทั้งแม่ หรือพ่อพันธุ์สุนัขที่ติดเชื้อนี้ แม่พันธุ์สุนัขอาจมีปัญหาเรื่องผสมไม่ติด หรืออาจผสมติด แต่มีการตายของลูกในท้อง ระยะแรกของการตั้งท้อง และถ้าแม่สุนัขสามารถตั้งท้องต่อไป ก็พบอาการแท้งลูกสุนัขออกมา ในช่วงการตั้งท้องประมาณ 45 วันขึ้นไป ซึ่งอาจแท้งออกมาหมดทุกตัว หรือเหลือรอดบางตัว และสามารถอยู่จนครบกำหนดคลอด แต่ลูกที่คลอดออกมาก็มักจะตายใน 1 สัปดาห์แรก หรือตายก่อนหย่านม แม่สุนัขบางตัวอาจพบมีสิ่งคัดหลั่ง ออกมาจากช่องคลอด แม่สุนัขบางตัวอาจไม่พบอาการป่วยเลย ยกเว้นมีแต่อาการแท้งเท่านั้น ส่วนพ่อพันธุ์สุนัขที่ติดโรคนี้ จะก่อให้เกิดปัญหาการผสมไม่ติด อาจมีการอักเสบของถุงห้มอัณฑะ ท่อนำน้ำเชื้ออักเสบ และอาจเกิดการบวมขยายใหญ่ของอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ถ้าเป็นโรคนี้อย่างเรื้อรัง จะก่อให้เกิดการฝ่อแฟบของลูกอัณฑะร่วมด้วย พ่อพันธุ์บางตัว อาจพบมีการบวมขยายใหญ่ของต่อมน้ำเหลือง หรือต่อมลูกหมากร่วมด้วย น้ำเชื้ออสุจิจะมีคุณภาพไม่ดี สุนัขที่เป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่จะไม่พบอาการป่วยของระบบอื่นๆ ให้เห็น ดูๆ ไปก็เป็นสุนัขที่ร่างกายแข็งแรงดี ยกเว้น มีปัญหาองระบบสืบพันธุ์
  • ส่วนในคนที่ติดโรคนี้ จากรายงานจะพบในคนที่ทำงานในห้องปฏิบัติการ ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อแบคทีเรียตัวนี้
    หรือในคนเลี้ยงสุนัขที่อยู่ใกล้ชิดคลุกคลีกับสุนัขที่เป็นโรคนี้ อาการในคนที่ป่วยโรคนี้ไม่แน่นอน
    อาจไม่แสดงอาการเลย หรือแสดงอาการมีไข้ขึ้นๆ ลงๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจพบอาการตัวสั่น
    ปวดศีรษะร่วมด้วย แต่ไม่ต้องตกใจ มากนะคะ เพราะในคนโรคนี้ สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ในสุนัขโรคนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในสุนัขนั้น เพียงแต่ช่วยควบคุม ปริมาณเชื้อในกระแสเลือดเท่านั้น เมื่อไหร่ที่หยุดกินยา เชื้อก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ และเชื้ออาจอยู่ในตัวสุนัขเป็นปีได้
  • การติดต่อของโรค
    เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านทางเยื่อเมือกทุกส่วนของร่างกาย โดยการกินเป็นวิธีหลักของการติดต่อโรคนี้ หมายถึงว่า สิ่งคัดหลั่งได้แก่ น้ำจากช่องคลอด อาจเป็นในช่วงเป็นสัตว์หรือไม่ก็ตาม น้ำนม น้ำคล่ำ เนื้อเยื่อลูก รกที่แท้งออกมา น้ำอสุจิ น้ำปัสสาวะจากสุนัขทั้งตัวผู้ และตัวเมียที่เป็นโรคปนเปื้อนอยู่กับพื้นคอก, พื้นบ้าน หรือปนเปื้อนในอาหาร น้ำ สุนัขอื่นที่เลี้ยงรวมกันหรือเลี้ยงปล่อย ก็มีโอกาสสัมผัสกินสิ่งที่ปนเปื้อนนี้ก็ติดโรคได้ค่ะ การเลียบริเวณอวัยวะเพศของสุนัขด้วยกัน ทั้งเพศผู้ เพศเมียในช่วงเป็นสัตว์ ก็ทำให้ติดโรคนี้ได้ ส่วนวิธีติดรองลงมา คือ จากการผสมพันธุ์ สิ่งคัดหลั่งจากช่องคลอด ในสุนัขเพศเมีย หรือน้ำอสุจิจากสุนัขเพศผู้ ที่เป็นโรคมีเชื้อแบคทีเรียออกมาด้วย ดังนั้นการผสมพันธุ์ก็เป็นวิถีทางที่ทำให้เกิดการติดต่อโรคโดยตรง ระหว่างสุนัขเพศผู้และเพศเมีย
  • การควบคุมและป้องกันโรค
    โรคนี้ในสุนัขไม่มียารักษา และไม่มีวัคซีนในการป้องกันโรคเลย วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค คือ พยายามอย่าให้สุนัขเราคลุกคลีกับสุนัขอื่น ยิ่งเป็นการเลี้ยง ในระดับฟาร์มแล้ว โอกาสสัมผัสติดต่อกับสุนัขอื่นนอกฟาร์ม เป็นไปได้สูงมาก ไม่ว่าจะมาจากการผสมพันธุ์ หรือจากการพบปะสุนัขอื่นในสนามประกวดสุนัขก็ตาม ถ้าเป็นไปได้นะคะ โอกาสที่จะลดการติดโรคนี้คือ ทั้งพ่อและแม่พันธุ์สุนัขควรมีใบตรวจสุขภาพว่า ปลอดจากโรคนี้จากสัตวแพทย์ก่อน ค่อยให้ผสมพันธุ์ด้วยกัน ส่วนในสุนัขตัวที่เป็นโรคนี้นะคะมี 2 วิธีที่ดี ในการควบคุมโรคนี้ วิธีแรก คือ การฉีดยาให้หลับ เพื่อไม่ให้แพร่โรคต่อไปได้ หรือวิธีที่สอง คือ การทำหมันทั้งในเพศผู้ และเพศเมีย วิธีที่สองนี้จะช่วยลดการแพร่ของโรคนี้ได้มาก แต่ไม่ 100% และควรแยกเลี้ยงต่างหากโดยไม่ให้ปะปนกับพ่อและแม่พันธุ์สุนัขอื่นในฟาร์ม เพราะยังมีโอกาสแพร่เชื้อได้ แต่น้อยมาก และที่สำคัญไม่ควรขายสุนัขที่เป็นโรคนี้ให้กับฟาร์มอื่น เพราะจะทำให้การแพร่ของโรคเป็นไปมากขึ้น ซึ่งทำให้การควบคุมโรคทำได้ลำบากขึ้นท่านผู้อื่นอ่านดูแล้วก็อาจนึกกลัวว่าโรคนี้เป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงก่อให้เกิดการสูญเสียในฟาร์มสุนัขได้ และที่สำคัญคือสารถติดต่อสู่คนได้

    ขอขอบคุณความรู้ดีๆ จาก
    ผศ.สพ.ญ.ดร.เกษกนก ศิรินนฤมิตร
  • :063: สุดยอด ขอบคุณมากๆๆๆๆ ครับที่กรุณาหาสาเหตุ วิธีป้องกัน นำมาให้เป็นความรู้ต่อๆกัน ขอบคุณครับ ^:)^ ^:)^ ^:)^ นี่แหละหนาสังคมแห่งการแบ่งปัน อย่างแท้จริง ทีนี้ไม่รักที่นี่ได้ยังไงกันล่ะครับ
  • :) ยินดีครับ