ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ด่วน ขอความเห็นจากแฮนด์เล่อร์ !!
  • เนื่องจากงานลากครั้งนี้ มีสุนัขสมัครเข้ามาทำการแข่งขันเกือบร้อยตัว เกรงว่าเวลาจะไปพอ และมีสมาชิกบางท่านเสนอมาว่า สนามนี้ให้ลากสูงสุดไม่เกินตัวละ 5 ครั้ง และไม่ควรให้มีการซ่อม ถ้าลากไม่ได้ก็จบเลย จะได้ไม่เสียเวลา ไม่ทราบว่าท่านสมาชิกที่ส่งหมาลงแข่ง มีความเห็นว่าอย่างไรครับ

    ขอบคุณทุกความเห็นครับ ^:)^
  • หวัดดีครับพี่มาร์ค
    อึม..ไม่ใช่แฮนเลอร์..แต่ขอแสดงนิดนึงครับ
    1. สัก 4 ครั้ง ซ่อมได้ 1 โดยให้ลากต่อขณะนั้นเลย
    เหตุผล ลาก 4 ครั้ง
    ครั้ง 1 เป็นการ ยืดเส้น ยืดสาย กรณีหมาอยู่ในบล็อคนาน อาจเหน็บกิน
    ครั้ง 2-3 เป็นการทดสอบน้ำหนักไปในตัว เพราะแต่ละสนาม น้ำหนักการลากอาจคาดคะเนได้ ไม่เท่ากัน
    ครั้งที่ 4 เป็นการเรียกน้ำหนักสูงสุดที่แฮนเลอร์คาดว่านักกีฬาจะทำได้ และซ่อมไปในคราวเดียวกัน
    ปล. หากไม่ให้ซ่อม กรณีหมาตกใจ ครั้งแรกเรียก ไม่มาเลย ...จะเสียโอกาส ฯลฯ..
    ด้วยความเคารพครับ
  • 2. น่าจะเพิ่ม จากครั้งละ 100 กก. มาเป็นครั้งละ 200 กก. :-D ;;)
  • ตอบ ท่านอาทิตย์นะครับ
    การเพิ่มน้ำหนักครั้งละ 200 มันมีผลเป็นอย่างมากกับหมาเล็กครับ

    จากที่คุยกันมา เขาให้เหตุผลมาว่า ปัจจุบันหมาส่วนใหญ่ลากเป็นกันแทบทั้งนั้น และถ้าหมาทุกตัวใช้สิทธิ์ครบ ตัวละ 5 ครั้ง เวลาไม่มีทางพอครับ และถ้าใครอยากจะวอร์มหมา ก็ให้ใช้สิทธิ์การลากครั้งแรกเป็นการวอร์ม เช็คสภาพราง เช็คน้ำหนักไปในตัว แต่ถ้าหมาไม่ยอมลากตั้งแต่ครั้งแรกก็ถือว่า การเตรียมตัวมาไม่ดีพอ โอกาสชนะก็คงยาก และอีกอย่าง หลายๆสนามที่ผ่านมา เกิดการสับสน ตัวไหนซ่อมแล้ว ตัวไหนยังไม่ซ่อม ดังนั้น ตัวไหนลากไม่ผ่านก็ถือว่าให้จบการแข่งที่จุดนั้นเลย มันง่ายดีครับ

    ผมค่อนข้างเห็นด้วยในข้อเสนอ แต่ไม่กล้าประกาศใช้ เลยอยากถามความเห็นสมาชิกก่อนเพื่อความมั่นใจครับ
  • เห็นด้วยครับ 5 ครั้งไม่ต้องซ่อม ไม่ผ่านคือไม่ผ่าน
  • เห็นด้วยครับ สนับสนุน 5 ครั้งไม่ซ่อมอีกหนึ่งเสียงครับ
  • เห็นด้วยครับและมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยแต่ยังเรียบเรียงไม่เสร็จยังไงจะลงภายในวันจันทร์ครับ
  • กติกาสนามนี้มีปรับแก้จากเดิมเล็กน้อย เพื่อความเป็นระเบียบและรวดเร็ว ..

    เราจะเริ่มลากที่น้ำหนัก 1,000 กก และจะเพิ่มน้ำหนักครั้งละ 100 กก และการรลงลาก เราจะเรียงน้ำหนัก จากสุนัขน้ำหนักตัวน้อย ไปหามาก อย่างเคร่งครัด โดยแฮนด์เล่อร์ จะต้องแจ้งน้ำหนักที่จะลงลาก ให้กรรมการทราบล่วงหน้า จะไม่มีการอนุญาติให้แซงคิวหรือสลับลำดับลากอย่างเด็ดขาด

    ยกตัวอย่าง ขณะที่สุนัขตัวอื่นๆกำลังแข่งลาก ที่ นน 1,000 กก แฮนด๋เล่อร์ที่มีความประสงค์ จะลงลากที่ นน 1,100 กก จะต้องรีบมาแจ้งที่กรรมการก่อนล่วงหน้าก่อนการแข่งก่อนรุ่น 1,000 กก จบ เพื่อที่กรรมการก็จะได้มีเวลามากพอจัดเรียงรายชื่อตามน้ำหนักตัว ส่งไปที่ โฆษก สนาม เพื่อประกาศเรียกนักกีฬาในรอบต่อไป

    ใครแจ้งไม่ทัน และกรรมการส่งรายชื่อไปที่โฆษกแล้ว จะถือว่ามีเจตนาข้ามในน้ำหนักนั้น แต่ท่านที่แจ้งแล้วก็ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนหรือยกเลิก ต้องลงลากในน้ำหนักที่ท่านเลือก หากไม่ลง หรือลงไม่ทันตามที่โฆษกประกาศเรียก จะถือว่าต้องการข้าม แต่เสียสิทธิ์ไปหนึ่งครั้งทันที
  • เราจะเริ่มชั่งน้ำหนักตัว 8.00 น. เพื่อจัดลำดับเรียงตามน้ำหนักตัว และแจกเบอร์ เรียงตามหมายเลข จากน้ำหนักตัวน้อยไปหามาก และจะไม่มีการให้หมาน้ำหนักน้อยกว่าลงลากตามหลังหมาน้ำหรักเยอะกว่าอย่างเด็ดขาด ดังนั้นใครมาส่าย หรือมาชั่งน้ำหนักหลังจากกรรมการแจกเบอร์ไปแล้ว ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

    เพร่าะถ้าเราอนุญาติให้ท่านลงแข่ง น้ำหนักตัวก็จะไม่เรียง เพร่าะเราแจกเบอร์ไปแล้ว มันจึงแทรกให้ไม่ได้ ต่อท้ายก็ไม่ได้

    ตำแหน่งติดเบอร์ จะแจ้งก่อนการแข่งขัน แฮนด์เล่อร์ที่ลงเรียกหมามากกว่าหนึ่งตัว ต้องติดหมายเลขเรียงจากบนลงล่างเรียงจากน้อยไปหามาก และติดในฝั่งเดียวกัน เพื่อสะดวกในการมองเห็น และตรวจเช็ค

    เพื่อความชัวร์ การเดินทาง ขอให้ใช้ทางด่วนและลงที่เมืองทองเลย เพื่อหลีกเลี่ยงการชุมนุมประท้วงที่บริเวณ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
  • เข้ามาเจอกระทู้ ฮอทเลย พี่มาร์คครับ ใจนามผู้ร่วมเข้าแข่ง และ ร่วมจัดงาน
    สนับสนุน การปรับปรุงกฏ กติกา ต่างๆให้ทันยุค และร่วมสมัยเพราะปัจจุบัน นักกีฬามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    กฏ กติกา รูปแบบเดิมๆ อาจไม่เหมาะสมกับการจัดงานให้ตรงตามความต้องการทุกๆฝ่ายได้
    แต่เชื่อว่าว่าการปรับเปลี่ยนทุกครั้งจะส่งผลดีแก่ผู้เข้าร่วม และ วงการลากน้ำหนักแน่ๆ ครับ :063:

    เรื่อง 5 ครั้ง ไม่มีซ่อม จริงๆเห็นด้วยนะครับ
    เป็นการฝึกสร้างให้แฮนเลอร์ที่นำหมามาลงแข่งทุกคน
    ต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม ทั้งการซ้อมและเรียกน้ำหนัก
    แต่ผมหวั่นใจว่าจะมีช่องโหว่ และ อาจสร้างปํญหา ที่ควบคุมไม่ได้ครับ
    เนื่องจาก แฮนเลอร์มีทั้งมือเก่า มือใหม่ ที่ทั้งมั่นใจและยังขาดความมั่นใจ ในหมาตนเอง

    ปัญหาที่จะเกิดตามมา...อย่างแน่นอน
    คือเมื่อขาดความมั่นใจ กลัวหมาไม่ลากไม่มีซ่อม
    จะต้องเสียเวลาวอล์มหมาบนราง อย่างที่เราควบคุมไม่ได้ว่าใครจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน

    ผมขอเสนอ....

    หลังจากออกจาก ล็อคฉากกั้นหมาจน... มาถึงท้ายรางรถลาก ..
    ให้กรรมการ ซึ่งน่าจะคือพี่จอห์น เริ่มกด เวลา สตาร์ท เริ่มต้น ได้เลย

    โดยกำหนดให้ นักกีฬา ทุกคนทุกตัว มีเวลา ต่อรอบ รวมลากคนละ 2 นาที
    น่าจะเป้นการดีกว่า และ สามารถควบคุมเวลา ได้ด้วยทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ได้เท่าเทียมกันครับ
  • เห็นด้วยกับการลากเพียง 4 ครั้ง แก้ตัวได้ 1 ครั้ง รวมเป็น 5 ครั้ง แต่ถ้าให้ลาก 4 ครั้งไม่ให้มีรอบแก้ตัวเลย ไม่เห็นด้วยอย่างมากคับฮ่าๆๆ

    สำหรับผม จะลากกี่ครั้งหรือกี่รอบก็ตาม ต้องให้โอกาสได้แก้ตัว อย่างน้อย 1 ครั้งคับ เพราะน่าจะให้โอกาสแก้ตัวสักครั้ง

    ผมเห็นหมาหลายตัว ที่ลากมาแต่ละงานไม่ผ่าน แต่มาลากผ่านในรอบแก้ตัวเยอะคับ(แต่หมาผมทั้ง 3 ตัว พอแก้ตัวทีไร ลากไม่ผ่านในรอบแก้ตัวสักครั้งเลยฮ่าๆๆ)

    แต่ถ้าไม่ให้แก้ตัวเลย ผมว่าเจ้าของสุนัขหลายท่านอาจไม่เห็นด้วยเยอะเพียงแต่ไม่ได้มาแสดงความคิดเห็นในบอร์ดนี้เท่านั้น เพราะว่าไม่ได้เข้าดูเป็นประจำ นานๆหลายวัน อาจจะเข้ามาดูทีคับ
  • เห็นด้วยกับพี่ทัยคับ เพราะหมาใหม่บางตัวชินกับสนามที่ซ้อมแต่ยังไม่เคยเจอสนมจริงๆที่มีคนเยอะ หมาเยอะ มีเสียงเพลง ฯลฯ อาจตื่นๆได้คับ และอีกอย่างหมาบางตัวรอบแรกลากไม่ผ่าน ซ่อมแล้วผ่านและลากจนจบทีห้าครั้งก้อเยอะคับ ขอบคุณคับ
  • จะลาก 3 4 5 ครั้งรวมซ่อมไม่มีปัญหา ไม่มีซ่อม มันคาใจครับ
  • เรื่อง ซ่อม หรือ ไม่ซ่อม ขอเสียงส่วนใหญ่จากแฮนด์เล่อร์ช่วยชี้ขาดก็แล้วกันครับ
    สำหรับผม ไม่มีปัญหา ห่วงแค่เรื่องเวลาจะไม่พอเท่านั้นครับ
  • ไม่มีซ่อม มันจะเป็นการแก้กติตาที่ก้าวกระโดดมากเลยนะ ในความคิดเจมส์ จะ 3 ครั้ง 4 ครั้ง รวมซ่อมไม่ว่า หรือ 4 ครั้งรวมซ่อมเลย กำลังดี เห็นใจคนที่เดินทางมาไกลๆ วิ่งรถมาเป็น สิบชั่วโมง ขึ้นราง แล้วนิ่ง ตกรอบโดยไม่มีสิทธิ อุธรณ์ มันดูโหดร้ายไปหน่อย ตัดสินคดียังมีให้ตั้ง 3 ศาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่ เอาไงก็ตามนั้นครับ
  • สำหรับผมเห็นด้วยกับพี่ทัยครับและง่ายๆสั้นเห็นด้วยว่าน่าจะมีรอบซ่มครับหมาใหม่และคนที่ไม่มีรางหมาปรับตัวยากแน่นอนครับ :)
  • เห็นด้วยกับพี่ทัยครับ ควรมีรอบซ้อมครับผม
  • ก็เข้าใจครับ หมาหลายๆตัว มันลีลาเยอะ บางตัวก็รู้มาก บางตัวก็ไม่เข้าใจหน้าที่ บางตัวก็ยังไม่เข้าใจคำสั่ง
    ถ้าขึ้นไปยืนบนรางแล้ว นิ่ง แล้วต้องตกรอบตั้งแต่วินาทีแรก มันก็ค่อนข้างโหดร้ายกับเจ้าของ เผลอๆจะพาลถอดใจเลิกเล่นไปเลย มันก็น่าเสียดายครับ
  • เห็นด้วยกับท่านพี่ทัยคับกะพี่เจมส์
  • รุ่นไม่เกิน 25 กก. 1. คูมะ น้ำหนักตัว 21.3 กก. ลากได้ 1200 กก. เวลา 46.31 วินาที 2. ทอง น้ำหนักตัว 21.4 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 33.59 วินาที 3. โลเปช น้ำหนักตัว 22 กก. ลากได้ 900 กก. เวลา 13.4 วินาที 4. โซดา น้ำหนักตัว 22.2 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 21.78 วินาที 5. ใบหยก น้ำหนักตัว 22.8 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 28.35 วินาที 6. เอลวิน น้ำหนักตัว 23.7 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 49.17 วินาที 7. จากัวร์ น้ำหนักตัว 23.9 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 30.22 วินาที 8. นิวเคลียร์ น้ำหนักตัว 23.9 กก. ลากได้ 1400 กก. เวลา 23.19 วินาที 9. น๊อตตี้ น้ำหนักตัว 24.2 กก. ลากได้ 1300 กก. เวลา 40.3 วินาที รุ่น25.01-28.00 กก. 1. ดีเซล น้ำหนักตัว 25.2 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 18.62 วินาที 2. ทองดี น้ำหนักตัว 25.2 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 3. แม๊กม่า น้ำหนักตัว 25.2 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 42.77 วินาที 4. ฟูโซ่ น้ำหนักตัว 25.5 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 17.55 วินาที 5. ฟาโรห์ น้ำหนักตัว 26.4 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 19.14 วินาที 6. CoCo น้ำหนักตัว 26.6 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 50.56 วินาที 7. ลาครอส น้ำหนักตัว 26.6 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 49.59 วินาที 8. บิ๊กกัฟ น้ำหนักตัว 26.6 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 36.92 วินาที 9. ซีตาร์ น้ำหนักตัว 27 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 42.71 วินาที 10. ลูเคีย น้ำหนักตัว 27.2 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 30.27 วินาที 11. ฮะเก๋า น้ำหนักตัว 27.5 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 19.1 วินาที 12. บัดดี้ น้ำหนักตัว 28 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 38.79 วินาที รุ่น28.01-31.00 กก. 1. เจคอป น้ำหนักตัว 28.7 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 43.88 วินาที 2. Blu น้ำหนักตัว 29.3 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 19.7 วินาที 3.ไลแค่น น้ำหนักตัว 29.3 กก. ลากได้ 2500 กก. เวลา 48.57 วินาที 4. Moody น้ำหนักตัว 29.4 กก. ลากได้ 1600 กก. เวลา 38.85 วินาที 5. เปียกปูน น้ำหนักตัว 29.4 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 16.03 วินาที 6. ฮีโร่ น้ำหนักตัว 29.6 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 25.51 วินาที 7. ข้าวสวย น้ำหนักตัว 29.6 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 27.35 วินาที 8. ชบาแก้ว น้ำหนักตัว 30.4 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 40.5 วินาที 9. เรดโอชิ น้ำหนักตัว 30.5 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 36.99 วินาที 10. 3G น้ำหนักตัว 31 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน รุ่น31.01-34 กก. 1. เจ้าผม น้ำหนักตัว 31.3 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 15.47 วินาที 2. กรามล๊อค น้ำหนักตัว 31.3 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 21.69 วินาที 3. เชียร์เล่อร์ น้ำหนักตัว 31.5 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 23.85 วินาที 4. แอริส น้ำหนักตัว 314.7 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 5. เรดดี้ น้ำหนักตัว 31.8 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 14.26 วินาที 6. ซูส น้ำหนักตัว 32.2 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 25.3 วินาที 7. สวัสดี น้ำหนักตัว 32.3 กก. ลากได้ 2700 กก. เวลา 32.33 วินาที 8. บารมี น้ำหนักตัว 32.5 กก. ลากได้ 2300 กก. เวลา 29.69 วินาที 9. โอวัลติน น้ำหนักตัว 32.6 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 32.81 วินาที 10. ซูก้า น้ำหนักตัว 32.9 กก. ลากได้ 2300 กก. เวลา 39.5 วินาที 11. คีล์ล่า น้ำหนักตัว 33.4 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 12. สกั๊ด น้ำหนักตัว 33.4 กก. ลากได้ 1100 กก. เวลา 55.04 วินาที 13. วินเซนต์ น้ำหนักตัว 33.8 กก. ลากได้ 1600 กก. เวลา 19.73 วินาที 14. บ๊อบบี้ น้ำหนักตัว 34 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 34.49 วินาที 
  • รุ่น34.01-37.00 กก. 1. บารอน(บลูลี่) น้ำหนักตัว 34.5 กก. ลากได้ 1900 กก. เวลา 29.97 วินาที 2. พูม่า น้ำหนักตัว 35.2 กก. ลากได้ 2700 กก. เวลา 35.68 วินาที 3. โกโก้ น้ำหนักตัว 35.5 กก. ลากได้ 2700 กก. เวลา 24.64 วินาที 4. รถเมล์ น้ำหนักตัว 35.5 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 11.87 วินาที 5. ซันซัส น้ำหนักตัว 36.4 กก. ลากได้ 1600 กก. เวลา 11.57 วินาที 6. ลูน่า น้ำหนักตัว 36.5 กก. ลากได้ 2500 กก. เวลา 18.03 วินาที 7. คูเปอร์ น้ำหนักตัว 36.6 กก. ลากได้ 1200 กก. เวลา 44.34 วินาที 8. สต๊อป น้ำหนักตัว 36.7 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 21.62 วินาที 9. เรดการ์ด น้ำหนักตัว 36.8 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 24.20 วินาที 10. เดวิล น้ำหนักตัว 37 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน รุ่น37.01-40.00 กก. 1.โรบินฮูด น้ำหนักตัว 37.5 กก. ลากได้ 2300 กก. เวลา 26.55 วินาที 2. ออฟติมัส น้ำหนักตัว 38.2 กก. ลากได้ 2500 กก. เวลา 19.79 วินาที 3. ฮีโร่ น้ำหนักตัว 38.4 กก. ลากได้ 2700 กก. เวลา 46.48 วินาที 4. ซันซีโร่ น้ำหนักตัว 38.4 กก. ลากได้ 2500 กก. เวลา 18.90 วินาที 5. บารอน น้ำหนักตัว 39.2 กก. ลากได้ 2900 กก. เวลา 30.47 วินาที 6. จันทร์แดง น้ำหนักตัว 39.8 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 20.17 วินาที 7. ปิกัสโซ่ น้ำหนักตัว 39.9 กก. ลากได้ 1500 กก. เวลา 26.23 วินาที รุ่น 40 กก.ขึ้นไป 1. จูเนียร์ น้ำหนักตัว 40.9 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 18.62 วินาที 2. บรังก้า น้ำหนักตัว 41.4 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 26.57 วินาที 3. วายุ น้ำหนักตัว 42.8 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 4. บรองโก้ น้ำหนักตัว 43 กก. ลากได้ 2100 กก. เวลา 12.50 วินาที 5. ยักษ์ น้ำหนักตัว 43.5 กก. ลากได้ 2500 กก. เวลา 51.32 วินาที 6. เรดบิ๊ก น้ำหนักตัว 44.2 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 7. เดอะดุ๊ก น้ำหนักตัว 45.3 กก. ลากได้ 3300 กก. เวลา 33.31 วินาที 8. เบน น้ำหนักตัว 47.5 กก. ไม่มีผลการแข่งขัน 9. อัคคี น้ำหนักตัว 48.2 กก. ลากได้ 1700 กก. เวลา 10.06 วินาที 10. บรูตัสน้ำหนักตัว 49.3กก. ลากได้ 3100 กก. เวลา 18.97 วินาที
  • ผมว่าน่าจะลองปรับน้ำหนักบังคับ ในแต่ละรุ่นให้เยอะหน่อยนะคับ น่าจะประหยัดเวลาได้เยอะมาก ละก็บังคับ เวลาในการออกสนามแบบพี่สู้ว่า
    ออกประตูจับเวลา 1นาทีต้องพร้อม พร้อมละก็จับเวลาอีกทีตอนสตาท
  • น่าจะเเริม 1400 เกิน 25 1500 เกิน 28 1600 ประมาณนี้คับประหยัดได้ครึงวัน
  • เคยมีคนเสนอวิธี ให้เริ่มต้นน้ำหนักบังคับเยอะๆ และเพิ่มน้ำหนักทีละ 200 แต่ก็มีคนแย้งว่า
    มันจะตัดโอกาสหมาเล็ก เพราะได้ลงแค่รอบสองรอบก็จบ ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นให้ลากไม่เกิน 5 ครั้ง
    แต่ถ้าทุกตัว ลงลากคนละห้าครั้งจริงๆ เที่ยงคืนก็อาจจะไม่จบ ก็เลยพยายามจะหาวิธีที่ช่วยเซฟเวลา
    และมาลงที่ ไม่ต้องซ่อม ใครไม่พร้อมก็ มีโอกาสตกรอบ แต่วิธีนี้ก็มากระทบกับ หมาที่ลงลากครั้งแรก ตื่นสนามอีก

    คือตอนนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน มันก็มีคนได้รับผลกระทบแทบทั้งนั้น เพราะปัญหาหลักในตอนนี้คือ เรามีเวลาแข่งที่จำกัดมากๆ แต่นักกีฬาเรามันหลากหลาย ตัวที่เครื่องร้อนไวมันไม่มีปัญหา แต่ถ้าไปเจอตัวที่เครื่องร้อนช้าต้องเผาหัวก่อน กติกาไม่ให้ซ่อมมันก็เหมือนตั้งขึ้นมาแกล้ง ผมเลยไม่กล้าฟันธงครับ
  • ถ้าเราเริ่มแข่งสัก 10 โมง แล้วจบไม่เกิน 6 โมงเย็นได้ มันจะเป็นอะไรที่เปอร์เฟคมากๆครับ ผมอยากเหลือเวลาสักสองสามชั่วโมง สำหรับการมอบรางวัล และให้พวกเราได้สังสรรค์กันเล็กๆ เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ อยากให้ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลังงานบ้าง แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปได้ยากมาก หากเราไม่มีการปรับเปลี่ยนกติกา

    จะแบ่งแข่งสองวัน คนที่มาจากต่างจังหวัดก็คงลำบาก ไหนจะเรื่องที่พัก เรื่องการทำงาน จะลางานมาแข่งหมาสองวันก็คงไม่ไหวแน่ๆ ถ้าให้ลงคนละสามครั้ง รวมซ่อม ก็กลัวว่าจะน้อยเกิน บางคนอุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล ใครมีไอเดียดีๆ ลองเสนอเข้ามาหน่อยครับ :-D
  • 4 ครั้งรวมซ้อม ลดไปหนึ่งครั้ง เวลาหายไปแน่นอนแล้ว ชั่วโมงครึ่ง
  • ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็ต้องวัดดวงเอานะครับ 55
  • ผมนั่ง วิเคราะห์ หลายตลบแล้ว มีตัวเลขที่อยากให้พวกเราช่วยกันคำนวน เพื่อหาทางออกกันหน่อยนะครับ

    เราเริ่มชั่งน้ำหนักได้ เร็วสุดคือ 8.00 น. แต่เราเริ่มแข่งได้เร็วสุดคือ 10.00 น. เพราะงานเขาเริ่มเวลานั้น และถ้าสมมุติว่าหมาหนึ่งตัว ใช้เวลาทั้งหมด ตั้งแต่การเดินขึ้นราง เตรียมตัว ลาก และ ลงราง เร็วสุดน่าจะประมาณ 3 นาที และงานนี้เรามีหมาสมัครเข้ามาประมาณ 90 ตัว เราลองวิเคราะห์กันดูนะครับว่า เราจะจบการแข่งขันได้เร็วสุดตอนกี่โมง

    ขอบคุณทุกความเห็นครับ
  • ถ้ากติกา 4 ครั้ง รวมซ่อม
    สุนัข 90 ตัว ตัวล่ะ 3 นาที 4 รอบ = 1080 นาที เท่ากับ 18 ชั่วโมง
    แต่สุนัขทุกตัวได้ลากแน่ๆ 2 ครั้งเพราะเนื่องจากมีซ่อม ใช้เวลาอย่างน้อย 9 ชั่วโมง

    ในการแข่งขันจะต้องมีสุนัขที่ติดถ้วยรางวัลและสุนัขอีกจำนวนมากที่ต้องลากมากกว่า 2 ครั้ง ดังนั้นเวลารวมการแข่งขันทั้งหมด น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย15 ชั่วโมงแปลว่าเริ่ม10.00 น จะจบที่เวลา01.00 นของวันอาทิตย์
    นี้ยังไม่รวมเวลาพักแบรค, เวลารับถ้วย และ เวลาของสปอนเซอร์

    ส่วนเรื่องที่ว่าบางท่านมาไกลได้ลากน้อยรอบ ผมคิดว่าจากสนามเมืองทองครั้งแล้ว ทีมจากพัทลุง มาไกล ก้ ลากแค่ครั้งเดียว ครั้งนี้ทีมจากพัทลุงยังสนับสุนนโยบายไม่มีซ่อม โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาแล้วเสียเที่ยว

    ส่วนตัวผมและทีม ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกติกา 5 ครั้งไม่ซ่อม เพราะสนามเมืองทองครั้งที่แล้ว ออฟติมัติก้ลากไม่ผ่านและได้ซ่อมตั้งแต่ครั้งแรก

    จากที่ผมได้คุยกับเพื่อนที่ลากน้ำหนัก ทางอเมริกา และศึกษา กติกาของ APA ก้ไม่มีกติกาการให้ซ่อม

    สุดท้ายแล้ว ก็ต้องแต่ความคิดเหนของแฮนเลอร์ส่วนมากและผู้จัดการแข่งขัน

    แต่สำหรับผมที่เห็นด้วยกับการ 5ครั้งไม่ซ่อม เพราะเห็นใจสปอนเซอร์และคนจัดงาน ที่อยากควบคุมเวลาให้พอเหมาะพอดี และคิดว่า บ้านเราเล่นน้ำหนักก็มานานพอสมควรแล้ว ควรน่าจะยกระดับ กติกาให้เปนสากลมากขึ้น เพื่อสำหรับการพัฒนาในอนาคต




  • ขอเสนออีกเสียงคับ อยากให้มีโอกาศแก้ตัว 1 ครั้ง จะลากจำกัดที่เท่าไหร่ครั้งก้ได้คับ
    หมาใหม่ๆที่ยังไม่คุ้นเคยจะได้มีโอกาศคับ
    ส่วนหมาที่เก๋าประสบการณ์แล้วแฮนด์เล่อรู้ดีคับว่าหมาเราทำได้มากสุดๆที่เท่าไหร่วางแผนดีๆ จะใช้สิทธิ์แก้ตัวหรือไม่แก้ก้ได้ หากอยากกระชับเวลาช่วยก็ไม่ต้องแก้ตัวคับ
    หมา 90 ตัว เวลาไม่พอแน่ๆคับหากทำกันแบบเดิม งานนี้ต้องร่วมด้วยช่วยกันคับ
    ส่วนจะสรุปกันยังไง ผมลากทุกรูปแบบคับ....อิอิอิ
  • ผมว่าระบุ นน.กับจำนวนครั้งที่ลากไปเลยครับ ผมเสนอ นำหนักเริ่มที่ 1400 กก. ให้ลากได้ 4 รอบ รวมซ่อม ถ้าแบบนี้ผมว่าเซฟเวลาไปได้เยอะพอสมควรครับ
    ปล.ยังไงก็ยังอยากให้มีซ่อมครับ เนื่องจากรางลากที่ใช้เเข่งขัน ในแต่ละสนามก็ต่างกัน ด้วยปัดใจหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ทำ การตั้งราง ความฝืดที่เกิดขึ้น ต่างๆนาๆ การซ้อมของแต่ละทีมแต่ละคนก็ต่างกัน การที่ให้โอกาสซ่อมผมว่ามันก็คือการคัดไปในตัว และมันก็เหมือนบทลงโทษในตัวมันเองคือ จากที่ทุกๆตัวมีโอกาสเรียกน้ำหนักได้ 4 ครั้ง ตัวไหนที่ซ่อม เท่ากับว่าเหลือเรียกน้ำหนักได้อีกแค่ 2 ครั้ง แค่นี้ผมว่าก็เหมาะและเป็นธรรมกับทุกๆคนแล้วครับ
    อีกแบบที่คิดไวคือ ระบุน้ำหนักเริ่มต้นเป็นของแต่ละรุ่นไป เช่น รุ่นที่นน.น้อยกว่า 25 ถึงรุ่นที่ไม่เกิน 34 กก. ให้เริ่มที่ 1400 กก. ส่วนรุ่น 34 กก.ขึ้นไป ให้เริ่มที่ 1800 กก. เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขที่นน.มากกว่า 34 ไปเริ่มที่ต่ำกว่า 1800 กก. และทุกตัวลากได้ แค่ 4 ครั้งรวมซ่อม แค่นี้ผมว่า น่าจะประหยัดเวลาไปได้มากพอสมควร
  • ตามความคิดของผมอยากให้มีการซ่อมครับ
    เพราะถึงอย่างไรกติกาก็กำหนดให้ลากห้าครั้ง จะซ่อมหรือไม่ซ่อมก็ได้ลากไม่เกินห้าครั้งอยู่เเล้ว
    เเต่ทั้งนี้ก็สุดเเล้วเเต่ผู้จัดงานครับ เห็นใจผู้จัดเหมือนกันครับ
  • ผมเห็นด้วยกับพี่ทัยคับ แก้ตัวได้1ครั้ง
  • 1. เสียงมีแก้ตัว
  • เรื่มชั่งน้ำหนัก 8.00 น ถึงกี่โมงครับ ผมอยู่ชลบุรีจะได้เผื่อเวลาไว้เดินทาง
    ส่วนจำนวนครั้งในการลากผมคิดว่า5ครั้งรวมซ่อมน่าจะเหมาะสมเพราะหมาทุกตัวคงลากไม่ครบ5ครั้งครับ
  • อยากให้อ่านตรงนี้อีกสักครั้งนะครับ

    ถ้ากติกา 4 ครั้ง รวมซ่อม
    สุนัข 90 ตัว ตัวล่ะ 3 นาที 4 รอบ = 1080 นาที เท่ากับ 18 ชั่วโมง
    แต่สุนัขทุกตัวได้ลากแน่ๆ 2 ครั้งเพราะเนื่องจากมีซ่อม ใช้เวลาอย่างน้อย 9 ชั่วโมง

    ในการแข่งขันจะต้องมีสุนัขที่ติดถ้วยรางวัลและสุนัขอีกจำนวนมากที่ต้องลากมากกว่า 2 ครั้ง ดังนั้นเวลารวมการแข่งขันทั้งหมด น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย15 ชั่วโมงแปลว่าเริ่ม10.00 น จะจบที่เวลา01.00 นของวันอาทิตย์
    นี้ยังไม่รวมเวลาพักแบรค, เวลารับถ้วย และ เวลาของสปอนเซอร์


    -------------------------------------------------------------------
    ถ้าทุกคนยืนยันและเห็นพ้องต้องกันว่าให้แก้ตัวได้ ก็แสดงว่า หมาทุกตัว อย่างน้อยต้องมีสิทธิ์ลากได้คนละ 2 ครั้ง ถ้าเฉลี่ยรอบละ 3 นาที จะใช้เวลาประมาณ 9 ชม และถ้าจบสองรอบแล้ว หมาตกรอบไปครึ่งหนึ่ง จะเหลือหมาอีก 45 ตัว หากลากอีกคนละรอบจะใช้เวลาอีกประมาณ 2.30 นาที และ ถ้าหมาตกรอบไปอีกครึ่งหนึ่ง สมมุติว่าเหลือ 20 ตัว เราจะใช้เวลาในช่วงนี้อีกประมาณ 1 ชม

    นี่เราคำนวนเวลากันแบบตึงเปะ โดยไม่มีอะไรผิดพลาด รวมเวลาลากทั้งหมด 9+2.20+1 = 12.30 ชม มันจะจบที่ประมาณสี่ทุ่มครึ่ง นี่ยังไม่รวมเวลาเช่น การโหลดหิน การรวมคะแนน การมอบถ้วย ถ้าสมมุติว่าเผื่อไว้ชั่วโมงครึ่ง ก็จบที่เที่ยงคืนพอดี แต่งานเขาเลิกประมาณ 2 ทุ่ม เขาให้เลทได้อย่างเก่งก็ไม่เกินสองชั่วโมง เขาคงไม่รอเราจนเที่ยงคืนแน่ๆ ผมจึงเกรงว่าช่วงท้ายๆ เราจะทำกันอย่างไร ?

    ถ้าเราไม่สามารถแข่งกันจนจบได้ เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ผมฝากให้ทุกท่านช่วยกันคิดหน่อยครับ ^:)^
  • ขอย้ำ โปรดอ่านตรงนี้สักนิดเถอะครับ ช่วยอ่านแล้วคิดตามนะครับ อย่าอ่านผ่านๆ แล้วมองแค่ว่า สมควรมีซ่อมหรือไม่มีซ่อม ......

    อ่านตรงนี้ดีๆนะครับ ถ้าทุกตัวได้สิทธิในการซ่อม ก็แสดงว่าหมาทุกตัวต้องลงลาก 2 รอบ ใช่ไหมครับ ? และถ้าคิดแค่รอบละ 3 นาที โดยที่ยังไม่รวมช่วงเวลาโหลดหิน เวลาของช่วงสปอนเซอร์ และกรรมการไม่ต้องขี้ต้องเยี่ยว ไม่ต้องกินข้าว เราก็ใช้เวลาไปแล้วถึง 9 ชั่วโมงครับ

    แต่เวลาช่วงนี้ ถึงหมาจะลากหรือไม่ลาก ตกรอบ หรือไม่ตกรอบ เราก็เซฟเวลาในช่วงนี้ไม่ได้เลย ..... แต่ถ้าเราไม่โดนข้อจำกัดเรื่องเวลา เราจะลากกันกี่รอบ มันก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ

    โปรดอย่าลืมว่าเราแข่ง ในศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี และสถานทีเขาก็มีเวลา เปิด ปิด ที่แน่นอน ไม่ใช่ว่าเราจัดแข่งในสถานที่ของพวกเราเองที่ จะเปิด หรือปิด กี่โมงก็ได้ และถ้าเป็นสถานที่ของเราเอง แข่งกันยันสว่าง ผมก็ไม่มีปัญหาครับ :002:
  • และถ้าสี่ทุ่ม เรายังแข่งกันไม่จบ และเจ้าของสถานที่ ขอร้องให้หยุดการแข่งขัน หรือ บังคับให้ต้องหยุดการแข่งขัน เราจะทำกันอย่างไรต่อ ?

    ฝากคิดนะครับ ^:)^
  • 3ครั้งไปทันแน่ 2000 3000 4000
    เนี้ยลากได้แบบนี้ก็เอาถ้วยไป
    จะลากกี่ครั้ง ขอให้กติกาเหมือนกันก็พอ
    สุดท้าย เอาแบบ สะดวกผู้จัดละกันครับ
  • แข่งครั่งหน้า คงต้อง จำกัด จำนวน นักกีฬา
    ช่วยเรื่องเวลาได้เยอะ
    ระยอง ขอ โควต้า 2 ตัวนะครับ :-D
    สุดท้าย แล้วแต่ ผู้จัดละกันครับ
  • ขอเสนอการเซฟเวลานะครับผมจะนำตราชั่งเข้างานตั้งแต่ วันที่ 24 เพราะผมนำหมาไปประกวดด้วย หมาประกวดและแข่งลากน้ำหนักดูแล้วน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 15 ตัว และผมเห็นบางทีนักกีฬาลากน้ำหนักก็พาหมามาเดินก่อนวันงานก็มี ถ้าวันที่ 24 ใครสะดวกนำหมามาชั่งน้ำหนักวันที่ 24 ก็น่าจะช่วยลดเวลาได้พอสมควร เพราะหลายงานตั้งแต่สนามเชียงใหม่ และ มหาสารคาม ก็ชั่งก่อนวันแข่ง เพราะผมเคยปรึกษากับพี่ ปธ. หนุ่ม ในงานมหาสารคามจะได้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น และเรื่องได้เสียเปรียบเรื่องน้ำหนักกันไม่เยอะเท่าไรแค่วันเดียวคงไม่สามารถลดและเพิ่มกันได้มากมายจนน่าเกลียด และวันที่ 25 นักกีฬาทุกคนรักษาเวลาเริ่มแข่งกันตรงเวลาน่าจะช่วยเซฟเวลาได้พอสมควร
  • ดีนะถ้าชั่งก่อน พวกรุ่นหลังๆจะได้ไม่ต้องรีบไปในวันงาน ฝ่ายที่จัดงานจะได้มีเวลาช่วยงานได้เต็มที่ด้วย
  • ขอทำความเข้าใจก่อนสักนิดเกี่ยวกับสถานที่ ที่เราใช้แข่ง เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานทั้งหมด และในแต่ละวันก็มีโปรแกรมวางไว้หมดแล้ว นอกจากเราแล้วก็ยังมีผู้เลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นมาร่วมในงานเดียวกับเรา ตอนเช้าหรือเย็น บริเวณลานด้านหลัง มันค่อนข้างวุ่นวาย เพราะมีคนขนของเขาออก ผมจึงเกรงว่าอาจจะไม่สะดวกครับ
  • สวัสดี ยามเช้าครับ

    เรื่องนี้ ทำเอาผมไปนอนฝันเลยครับ เช้านี้เลยตืนมานั่งพิมพ์ 55

    ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้นักกีฬาและแฮนด์เลอร์ทุกท่านได้มีโอกาสลงลากอย่างน้อยคนละสามรอบ แต่ปัญหาคือ คำนวนแล้วเวลามันไม่พอจริงๆครับ ผมคิดแค่ตัวละสามนาที ถ้าหมามี 90 ตัว หนึ่งรอบใช้เวลา 4.5 ชั่วโมง ถ้าคนละ 3 รอบ มันก็จะใช้เวลาถึง 13.5 ชั่วโมง นี่ยังไม่รวมเวลาที่ต้องใช้โหลดหิน บอกตรงๆว่าเครียดครับ

    ผมเข้าใจว่าสุนัขของหลายท่านมักจะมีปัญหาในการลงลากรอบแรก ที่อาจจะตื่นสนามจนไม่ยอมเดิน ถ้าไม่ให้มีการแก้ตัว ก็อาจจะทำให้เสียโอกาส แต่ถ้ามองกันในเรื่องของเกมส์กีฬา ที่มีแพ้ มีชนะ มีวันโชคดี วันโชคร้าย รวมถึงความสนุกสนานของเกมส์ในสายตาผู้ชม และอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆท่านมองข้าม การแข่งขันที่ต้องใช้เวลายาวนาน 10-12 ชั่วโมง ผมว่ามันก็นานเกินไปครับ และการที่ผู้ชมจะเกาะติดสนามตั้งแต่ต้นจนจบ ผมว่าคงเป็นไปไม่ได้ และไฮไลท์จริงๆ ของการแข่งขันคือ สุนัขลากผ่าน หรือลากไม่ผ่าน และลากได้เท่าไร มากกว่า

    ผมขอเสนอแบบนี้ก็แล้วกัน ผมให้ลากได้สูงสุด 3 ครั้ง รวมซ่อม การซ่อมจะอนุญาติในกรณีหมาที่ขึ้นไปแล้วยืนนิ่งไม่ทำตามคำสั่ง ผมจะอนุญาติทำฟาวล์ได้หนึ่งครั้ง คือ แฮนด์เล่อร์จะเข้าไปกระตุ้นหมาหรือจับต้องตัวหมาก็ได้ แต่ให้เวลาไม่เกิน 30 วินาที แต่ผมคงไม่ต้องถึงกับจับเวลานะครับ ให้กะเวลากันเองตามสมควร แต่ห้ามเอาหมาลงจากรางมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวหรือวิ่งวอร์ม และต้องทำการซ่อมเลยทันทีที่มั่นใจว่าหมาพร้อม เพราะหมายังไม่เหนื่อยจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพัก แต่หมาที่ลากไปแล้ว แต่ไปหยุดกลางทางและลากได้ไม่จบ อันนี้เกิดจากความฟิต ไม่เกี่ยวกับหมาไม่ยอมเดิน ดังนั้น ถ้าครบหนึ่งนาทีแล้วไม่สามารถลากไปจนถึงจุด Finish ก็ให้ถือว่าลากไม่ผ่าน และไม่มีการซ่อม

    และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด ผมจะให้ทีมงานพยายามเซ็ทรางให้ได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานมากที่สุดและต้องมีความชันเพียง 3 เซนต์ ห้ามเกินอย่างเด็ดขาด และหลังจากเซ้ทอับรางเสร็จ จะไม่อนุญาติให้ใครลงลากทดสอบ แต่ก่อนเริ่มแข่งจะให้กรรมการ ทำการลากรางให้ดูว่า สภาพรางในเวลานั้นเป็นอย่างไร ลื่น ฝืด และขอให้แฮนด์เล่อร์ ใช้ประสบการณ์สังเกตุเอาเองว่าสภาพรางเป็นอย่างไร ผมยอมรับว่า ทีม(ยังเติร์ก)เจ้าภาพอาจจะคุ้นเคยกับรางมากกว่าทีมเยือน แต่หลังจากขนย้ายรางมาเซ็ทที่สนามจริงแล้วจะไม่อนุญาติให้มีการเอาหมามาทดสอบอย่างเด็ดขาด เราจะแข่งกันตามสภาพจริงในขณะนั้น

    ในฐานะแกนนำที่ดำเนินการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ผมคิดว่านี่คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้แล้วครับ ที่เหลือผมก็คงไปวัดดวงกันหน้างาน ถ้าผมไม่ตัดสินใจกำหนดกติกาให้มันชัดเจน ผมก็ไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงขอให้สมาชิกได้เข้าใจถึงความจำเป็นครับ ผมขอยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะกลั่นแกล้งหรือสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบให้แก่ใคร ผมตัดสินใจแบบนี้ เพราะผมคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ผมจึงหวังว่า แฮนด์เล่อร์จะเตรียมนักกีฬาของท่านให้พร้อมสำหรับการแข่งขันให้มากที่สุด และ กีฬามีแพ้มีชนะ ผมจึงอยากให้เราสนุกกับสปีริตของเกมส์มากกว่าผลการแข่งขันครับ

    ขอบคุณทุกท่านครับ

    หมายเหตุ : ที่ผมได้มีการประกบคู่วางเดิมพันไว้ ผมขอยกเลิกทั้งหมดนะครับ เอาไว้หน้างานหากอยากจะเดิมพันกันขำๆ ก็ว่ากันอีกที ไม่มีปัญหาครับ
  • ทุกท่านแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ เผื่อผมอาจจะ พลาด มองข้ามความจำเป็นของบางอย่างไป
  • ผมว่าการที่หมาลากมาครึ่งรางแล้วแต่ไม่ถึงจุด Finish แล้วไม่มีรอบซ่อม แต่เป็นเพราะหมาไม่ฟิต แต่ผมก็เห็นก็เห็นหลายสนามรอบซ่อมหมานั้นก็ทำผ่านอยู่หลายตัวนะครับ แต่เรื่องชั่งน้ำหนักผมว่าอยากจะช่วยกระชับเวลาให้มากขึ้นเพราะเห็นมาหลายสนามแล้ว เริ่มการแข่งขันยังมีหมามาชัวน้ำหนักอยู่เลย ผมว่าหาจุดเหมาะๆลานจอดรถสักที่เอาตราชั่งไปตั้งตรงไหนก็ได้ครับไม่จำเป็นต้องใช้ไฟตราชั่งผมแบตในตัว แสดงความคิดเห็นด้วยความเคารพครับพี่น้อง
  • จาก นทค่ะ ผู้สนับสนุนแฟนทำกิจกรรมลากน้ำหนัก

    ถึงผู้จัดงานครั้งนี้
    ขอข้อสรุปของกติกาในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยนะค่ะ
    เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการเข้าร่วมการแข่งขัน
    ด้วยความเคารพค่ะ ขอบคุณค่ะ

  • ขอแสดงความคิดเห็นครับ
    สนามเมืองทองเป็นการแข่งขันระดับประเทศ เป้าหมายของผู้จัดงานคือแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสุนัขที่เป็นนักกีฬาและความเข้าใจในสุนัขของเจ้าของให้ผู้เข้าชมงานได้เห็นได้ร่วมสนุกว่านี่คือกีฬาประเภทหนึ่งไม่ใช่การทรมาณสัตว์ จึงต้องควรคิดในมุมมองของผู้ชมงานด้วย

    ผู้ชมงานจะสนุกเมื่อตอนเห็นสุนัขลากออกไปได้ ได้ลุ้นว่าต้องลากไปให้ถึงเส้นชัยในเวลาที่กำหนด เมื่อถึงรอบลึกขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้นยิ่งเร้าใจขึ้นการลากผ่านในเวลาหรือลากไม่ผ่าน(ไม่ว่าสุนัขพยายามออกแต่ออกไม่ได้หรือมาไม่ทันเวลา)ก็ยังทำให้ได้ลุ้นอยู่ตลอด แต่ถ้าสุนัขขึ้นรางแล้วยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวเลยผู้ชมก็คงไม่สนุกและยังทำให้ผู้ชมเห็นถึงการเตรียมตัวมาไม่พร้อม
    หากการแข่งขันยาวไปจนดึกผู้ชมรอบสนามคงไม่อยู่รอจนลากจบ บรรยากาศในHallก็จะเหมือนครั้งก่อนคือเริ่มปิดไฟปิดแอร์คนที่ยังสนุกก็จะเหลือแค่ในกลุ่มคนเลี้ยงคนแข่งขันเท่านั้น จึงน่าจะต้องเห็นใจทางผู้จัดงานด้วยเพราะจะต้องแบกรับความผิดชอบหากมีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น
  • เรียนสมาชิกอีกครั้งครับ

    ปัญหาหลักของการจัดงานในครั้งนี้ คือ เรามีเวลาที่ทางเจ้าของงานให้ดังนี้ครับ 10.00 น. - 20.00 น. หรือประมาณ 10 ชั่วโมง ปัญหาไม่ได้อยุ่ที่ว่าลากได้กี่ครั้ง มีซ่อมหรือไม่ซ่อมนะครับ ได้โปรด ได้เข้าใจตามนี้

    หากถามว่าทำไมเขาต้องมีเวฃาเปิดงาม ปิดงาน ที่แน่นอน ก็เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และเป็นแนวทางให้ ผู้มาชมงาม ผู้จัดแสดงสินค้า และสปอนเซอร์ ได้บริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม

    ผมยกตัวอย่างง่ายๆว่า ถ้าเขาเปิดปิดประตูไม่เป็นเวลา ห้างร้านที่ไปออกงาน จะเข้าหรืออกบริเวณงานในเวลาไหนก็ได้ มันก็กระทบไปถึงระบบรักษาความปลอดภัย และสมมุติว่า 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาปิดห้องแสดงสินค้า แต่การแข่งขันไม่จบ ร้านค้าที่อยู่ในส่วนแสดงสินค้าเขาต้องล้อมผ้า ปิดบู๊ต แต่ยังมีผู้ชมที่อยุ่ในส่วนการแข่งขันอยู่เต็ม แล้วเกิดมีมิจฉาชีพแฝงตัวปะปนเข้ามา และอาศัยช่วงที่คนสนใจงานแข่งไปลักขโมยของ มันก็กลายเป็นปัญหาจริงไหมครับ ผมจึงอยากให้เข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อครับ

    ผมจึงพยายามหาทางที่จะให้การจัดงานอยู่ในกรอบของเวลา ถ้าเราสามารถจบการแข่งได้กอ่นงานปิด มันก็จะสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย อันนี้คือวัตถุประสงค์ที่ผมพยายามจะขยับกติกาครับ
  • ผมเป็นมือใหม่ในการลากน้ำหนัก แต่เห็นด้วยตามกติกาสากลที่จะให้ลากโดยไม่มีการซ่อมเพราะนั่นคือการวางแผนเตรียมตัวมาให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน การแข่งขันไม่ใช่การซ้อม มันคือการเตรียมตัวมาจนถึงจุดสูงสุด ได้คือได้ ไม่ได้คือตกรอบจบเกมส์และไปเตรียมตัวให้พร้อมกว่าเดิมในครั้งหน้า ถ้านักกีฬาเตรียมตัวมาดีหมั่นไปซ้อมในสนามที่แตกต่างกันออกไปอย่างสม่ำเสมอทำให้สุนัขเข้าใจในเกมส์ในหน้าที่ จะเปลี่ยนไปสนามไหนมันก็ยังลากออกตัวให้ ส่วนจะออกได้หรือไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแรงและการฟิตซ้อม
    ส่วนเรื่องจะลากกี่รอบอยู่ที่ทางผู้จัดจะคำนวณว่าสามารถจบในเวลาได้อย่างเหมาะสมครับ
  • ในฐานะผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน สิ่งที่ผมกังวลมีเรื่องเดียวคือ ไม่สามารถจบการแข่งขันได้ภายในเวลา ดังนั้นผมขอสรุปว่าจะเลือกใช้วิธี ไม่มีการซ่อมก็แล้วกันครับ ผ่านคือผ่าน ไม่ผ่านคือไม่ผ่าน แต่ผมให้สมาชิกช่วยตัดสินใจว่าควรจะลากสูงสุดได้กี่ครั้งครับ

    1. ลากได้สูงสุด 3 ครั้ง
    2. ลากได้สูงสุด 4 ครั้ง
    3. ลากได้สูงสุด 5 ครั้ง

    ในสามทางเลือก ใครจะเลือกข้อไหนก็ไม่ว่า แต่อยากให้ท่านช่วยพิจารณาเรื่องเวลาที่เหมาะสมให้ผมด้วยครับ ถ้าทุกคนเลือกข้อ 3 คือลาก 5 ครั้ง แต่ถ้าเวลาไม่พอ รุ่นใหญ่ที่ลงแข่งช่วงท้าย อาจจะได้ลากเพียงครั้งเดียว หรือไม่สามารถแข่งได้จนจบการแข่งขันครับ

    ขอบคุณครับ ^:)^