ต่อมาเป็น

แล้ว

มีต่อมั้ย สรุปคดีมันถึงใหนแล้ว

นั่นสิครับ คดีมันถึงไหนเนี้ย
เหมือนดูซีรี่ย์เกาหลีแล้วสองตอนสุดท้ายไม่อัพให้ดูต่อยังไงยังงั้นเลย

นั่งดู นั่งฟัง แล้วมันหดหู่ใจอย่างแรงที่มันเกิดได้กับวงการครู ผู้ที่ได้รับการศึกษาสูงๆ เลวระยำมากถ้าเป็นเรื่องจริง ไม่น่าจะเกิดได้กับ พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติเรา ถ้าเป็นอย่างที่กล่าวอ้างจริง แม่งยิงทิ้งให้หมดทั้งสามคน มันไม่ใช่ครูแล้วแบบนั้น มันเป็นเดรัจฉานแล้ว เขามีครอบควัรแล้ว มีลูก มีสามีอยู่แต่ ยังทำไปได้ ไม่น่ามีครูในประเทศนี้ที่เป็นแบบนี้นะผมว่า ถ้าผมเป็นสามีครูคนนั้นเองนะ ผมไม่ให้ใครทำหรอกผมจัดการเองทั้งหมดเลย แม่งเลวมาก

ลองพิจารณาดูนะครับนี่เป็นข้อความบางตอนที่ผมหาได้
ความคืบหน้าในคดียิงครูพละเสียชีวิต ในปั๊มน้ำมันที่ จ.สมุทรสาครนั้น ล่าสุด นายฐาปนันท์ ยางธิสาร หนึ่งในครูที่ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกับครูผู้ตายล่วงละเมิดทางเพศ นางชุติมา ปานศรีนุ่น ครูโรงเรียนเดียวกัน
นายฐาปนันท์ กล่าวว่า รู้สึกงงกับข่าวที่ออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้สนิทสนมกับนางชุติมาเป็นการส่วนตัว แต่จะพูดคุยกับนางชุติมาแต่เรื่องงานเท่านั้น
ขณะที่ครูผู้หญิงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับนางชุติมา ยืนยันความบริสุทธิ์ของครูทั้ง 2 คน เพราะนางชุติมาจะคอยบอกครู และเพื่อนร่วมงานเสมอว่า สามีเป็นคนขี้หึง และห้ามครูผู้ชายอยู่ใกล้
นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรปราการ ยืนยันว่า คดีนี้เป็นการยิงผิดตัว และสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐานเขต 1 เร่งสอบสวนทางวินัย ตามที่มีการกล่าวหา หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบวินัยข้าราชการต่อไป

อ่านตอนไกล้จะจบดีๆนะครับ
จากการสืบสวนสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เบื้องต้นชุดสืบสวนตั้งปมความขัดแย้งส่วนตัว หรือชู้สาว แต่เมื่อสืบสวนเชิงลึกเรื่องปัญหาครอบครัวของครูชาลี มีการเคลียร์กันแล้วเมื่อ 5-6 ปีก่อน จึงทำให้ประเด็นชู้สาวมีน้ำหนักน้อยลง และคณะครูทั้งหมดยังให้การในแนวทางเดียวกันว่า วันเกิดเหตุประมาณเจ็ดโมงครึ่ง นายสมชาย ทองสุทธิ์ ผอ.โรงเรียน ได้สอบถามคณะครูบนรถบัสว่ามีใครต้องการเข้าห้องน้ำหรือไม่ มีครูผู้หญิงคนหนึ่งยกมือต้องการเข้าห้องน้ำ ทำให้ต้องจอดรถ คณะครูบางส่วนอาศัยจังหวะลงจากรถเข้าไปซื้อของและเครื่องดื่มภายในร้านสะดวกซื้อ แต่นายสมชายนั่งรออยู่บนรถบัส เพื่อเฝ้าข้าวของเครื่องใช้และกระเป๋าของคณะครู
ระหว่างการสอบสวนคณะครู มีรายงานผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณทางด่วนพระราม 2 และทางด่วนพระประแดง พบรถยนต์ต้องสงสัยที่มือปืนขึ้นไปแล้วหลบหนี มีการตามรถบัสของคณะครูมาตลอดทาง ประเด็นนี้เองชุดสืบสวนตั้งข้อสงสัยว่า คดีนี้ผู้อยู่เบื้องหลังน่าจะรู้เคลื่อนไหวของการเดินทางไปสัมมนาครั้งนี้ ทั้งที่คนภายนอกไม่รู้เรื่องนี้
“หรือคนร้ายต้องการจะยิงผมหรือเปล่า แต่ยิงผิดตัว เพราะรูปร่างของผมละม้ายกับครูชาลีมาก" นายสมชาย พูดโพล่งขึ้นมา

ทำให้ชุดสืบสวนต้องทบทวนดูภาพถ่ายของนายชาลีอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่า นายชาลี อายุ 55 ปี สูงประมาณ 168 เซนติเมตร รูปร่างท้วม ละม้ายคล้ายกับนายสมชายยังกับแฝดคนละฝา แตกต่างกันที่นายสมชายอายุ 50 ปีเท่านั้น นายสมชายจึงถูกแยกตัวออกมาสืบสวนเชิงลึกถึงสาเหตุการสังหารนายชาลี ซึ่งสงสัยว่าคนร้ายอาจยิงผิดตัว!?
นายสมชายให้ข้อมูลทำนองว่า เพิ่งย้ายมาประจำที่โรงเรียนดังกล่าว เคยมีความใกล้ชิดกับตำรวจ จึงมักถูกเชิญให้เป็นวิทยากร บางครั้งก็พูดเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ประกอบกับอุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา ล่าสุดได้ตำหนิครูผู้หญิงคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เรื่องที่สามีมานั่งเฝ้าเป็นประจำ และบอกห้ามให้สามีมาเฝ้าอีก เพราะเกรงว่าผู้ปกครองจะมองภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม และขั้นตำแหน่งก็ไม่ได้เลื่อนให้ครูคนนี้
จังหวะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้รับข้อมูลรถยนต์ที่มือปืนใช้หลบหนี ถูกขายต่อมาเป็นทอดที่ 5 จากการตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ที่รับช่วงต่อเป็นสามีของครูผู้หญิงที่เคยถูกนายสมชายตำหนิมาก่อน ที่สำคัญครูผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ร่วมเดินทางไปสัมมนาครั้งนี้ด้วย
“คาดว่าคนร้ายน่าจะยิงผิดตัว คนร้ายอาจต้องการยิง ผอ.โรงเรียน จากการสืบสวนสอบสวนปะติดปะต่อปมสาเหตุการเสียชีวิตของนายชาลี อาจกลายเป็นผู้รับเคราะห์แทน ตอนนี้ชุดสืบสวนมีหลักฐานประกอบการสืบสวน มั่นใจว่า เร็วๆ นี้ น่าจะจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังและมือปืนรายนี้ ขอเวลาอีกระยะหนึ่ง ไม่นานก็ทราบความจริง“ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ ระบุ