ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

การแข่งลากน้ำหนักสนาม 2 (30/6/2556) Impact
  • เราเลี้ยงพิตบูล หมาที่ต้องการความรับผิดชอบสูงสุด เพราะมันอันตราย มันแตกต่างจากหมาทั่วไป มันมีอะไรเหนือความคาดหมายตลอดเวลา ดังนั้นคนที่ครอบครองพิตบูล ก็ควรเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเหนือคนอื่น และเตรียมพร้อมตลอดเวลาครับ

    ทุกวันนี้ผมก็ยังเจอคนส่งข้อความมาถาม ประเภทซื้อมาก่อนแล้วค่อยมาหาข้อมูลกันทีหลัง คนที่หายเห่อโทรมาขอให้ช่วยหาบ้านใหม่ให้หมา หากเราไม่ช่วยกัน ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ปัญหานี้ก็หมักหมมกันต่อไป

    ผมยังเชื่อว่า พิตบูล มันเหมาะกับคนที่มีความพร้อม คนที่มีความรับผิดชอบ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอะไรแบบฉาบฉวยครับ :065:
  • คำว่ามือใหม่ มือเก่า มันก็ไม่เกี่ยวเลยสักนิด มือเก่าดักดานสันดานเสียก็เพียบ มือใหม่แต่เป็นคนคุณภาพก็เยอะ ดังนั้นเลิกอ้างความเป็นมือใหม่กันได้แล้ว มันไม่ใช่ข้ออ้าง หรือข้อแก้ตัวที่ดีเลยครับ

    ถ้าเป็นมือใหม่แล้วยังไม่ยอมดิ้นรน ชอบทำตัวเป็นภาระ ชอบทำตัวเรียกร้องความเห็นใจ ก็โปรดไปทีอื่นเถอะครับ ที่นี่ไม่ต้อนรับ ผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอ และกล้ารับผิดชอบ แต่ไม่ชอบพวกทำตัวเป็นลูกนกคอยให้คนเอาอาหารมาป้อนใส่ปาก พิตบูล มันต้องการนายที่ มีความเป็นผู้นำ มีความเข้มแข็ง เด็ดขาด และมีวินัยในตัวเอง ทำอะไรต้องมุ่งมั่นจริงจัง

    คนประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่เหมาะกับพิตบูลหรอกครับ เลี้ยงไปก็ไม่พ้นทิ้งกันกลางทาง ดังนั้นอย่าเสียเวลากับคนแบบนี้อีกเลย เอาเวลาไปทุ่มเทให้คนที่เขาอยากเลี้ยงจริงๆจะดีกว่า :063:
  • ขออนุญาติ ให้ข้อคิดลงในกระทู้นี้เลยนะครับ มันอาจจะช่วยเตือนสติคนอีกหลายๆคน ไม่ให้ตัดสินใจทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบครับ

    บางคนแวะไปดูเล่นๆ เพราะมีความชอบเป็นทุนเดิม ตั้งใจแค่ไปดู แต่นั่งเล่นไปเล่นมา อุ้มไปอุ้มมา เผลอใจเอากลับมาบ้านด้วยเฉยเลย คนแบบนี้มีไม่น้อยเสียด้วย

    ไม่นานมานี้ ผมเจอคนเมล์มาถาม เขาบอกว่าเขาชอบพิตบูลมาก ศึกษามานาน แต่ไม่มีเวลาสถานที่ก็ไม่พร้อม ต้องออกจากบ้านเช้า กลับดึก เสาร์อาทิตย์บางที่ก็อยู่ต่างจังหวัด ปัจจุบันอาศัยอยู่อพาร์ตเมนท์ จะเลี้ยงพิตบูลได้ไหม ?

    ความจริงคำตอบมันก็อยู่ในคำถามอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้อย่างว่าแต่เลี้ยงพิตบูลเลยครับ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างก็ไม่ควรเลี้ยง เพราะนอกจากจะไม่ทำให้มีความสุขแล้ว ยังนำความทุกข์ความกังวลใจมาให้อีกต่างหาก วันแรกๆยังเห่อก็อาจจะพอทนไหว แต่พอนานๆไปมันก็กลายเป็นภาระ กลายเป็นความยุ่งยาก เมื่อทนไม่ไหวก็ต้องหาเจ้าของใหม่อยู่ดี

    ดังนั้นความชอบอย่างเดียวคงไม่พอ มันต้องพร้อมด้วยครับ :-D
  • เจมส์เป็นคนหนึ่งที่ซื้อมาแล้วศึกษา แต่ก่อนหน้านี้มีความรู้เกี่ยวกับการฝึกหมามาบ้าง และเลี้ยงหมามาตลอดช่วงอายุ พิทบลูไม่เหมือนหมาพันธุ์ไหนที่เคยเลี้ยงมา ตั้งแต่ได้มาเว็บนี้เป็นเว็บที่เข้าบ่อยมา เข้าทุกครั้งที่ว่าง ถ้ามีสถิติการเข้าชมเว็บ คาดว่าจะเป็นลำดับต้นๆของคนเข้าเว็บ ดูทุกกระทู้ ทั่งความรู้ ขายหมา ขายอุปกรณ์ คนทะเลาะกัน อ่านทุกอย่างจริงๆ เพราะคิดว่าอย่างน้อยมันต้องมีอะไรให้บำรุงสมองเราบ้าง ปัจจุบันเลี้ยงมาประมาณ 1 ปี กับ 4 เดือน ยังไม่เคยสร้างปัญหาให้ใครครับ และจะศึกษาหาความรู้ตา่อไป
  • อันนั้น เรียกว่า " เสพติด " หรือ " บ้าขั้นเทพ " เจมส์
    แต่ สรุปแล้ว เราก็ บ้าเหมือนๆกันแหละน้อง ฮ่าฮ่า :-D :-))
  • ท่านเจมส์ ซื้อมาแล้ว แต่ดิ้นรนตั้งใจศึกษามันก็ไม่ยาก ทุกอย่างมันเรียนรู้กันได้ จึงไม่มีอะไรน่าห่วงครับ

    แต่ตอนนี้ที่พี่กำลังเจอ คือซื้อมาแล้ว แต่เจ้าของดันกลัวหมาตัวเองนะซิครับ มันเล่นแรง มันกัดมือ มันเล่นไม่เลิก เลยกังวลสารพัด พาลกลัวนั่น กลัวนี่ กลัวไปหมดทุกอย่าง ขนาดกลัวว่าโตมามันจะกัดเจ้าของ ก็ไม่เข้าใจจริงๆ ก่อนซื้อทำไมไม่กลัว เอามาถึงบ้านแล้วเพิ่งจะมากลัว และพิตบูล มันรู้ว่าใครกลัวมันได้ที่ไหน ยิ่งกลัวมันก็ยิ่งข่ม อีกไม่นานคงประกาศหาบ้านใหม่ครับ

    เจอแบบนี้แล้วปวดตับครับ :003:
  • คนเลี้ยงพิท อย่างหนึ่งที่ต้องมี คือความบ้า เห็นมาเยอะแล้ว ถ้าไม่บ้าเลี้ยงไม่ได้ เจออย่างพี่ทุกวัน เจมส์ก็คงประสาทเสียเหมือนกัน รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรเลี้ยง มันก็ยังอยากเลี้ยงอยากถาม ตอบคำถามโง่ๆของตัวเองไม่ได้ จะเลี้ยงทำ...ไร อีกพวกที่เห็นบ่อยๆ ศึกษามาสักระยะแล้ว ศึกษามาดีแล้ว แล้วก็ขอถามหน่อย..... เ...็ดเข้ศึกษาแล้ว 55555
  • คนเป็น โรคปอด โรคหัวใจ ก็เลี้ยงไม่ได้ครับ เพราะมันมีผลเป็นอย่างมาก
    ใครปอดแหก ใจไม่ถึง หมาเห่าก็ผวา แบบนี้เลี้ยงไปโดนกัดแน่ๆ :-D
  • ขอย้อนพูดเรื่องการจัดการ " งานลาก " หน่อยนะครับ :X

    ปัญหาไม่น่าใช่เรื่อง มือเก่า มือใหม่
    แต่คงเป็นส่วนเรื่อง..ของ การบริหาร จัดการ ร่วมกันของทุกฝ่าย
    เนื่องจาก งานแบบนี้ ทางทีมผู้จัดไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ เป็นรูปธรรมหรือเงินทองผลตอบแทน ใดๆ

    หนำซ้ำมีแต่ ต้องรับผิดชอบทั้ง แรงกาย แรงใจ แรงทุนทรัพย์ เพื่อความสุขร่วมกันของทุกฝ่าย

    ซึ่งจะมีแต่ผลดี กับทุกๆฝ่าย มากกว่า...


    ในส่วนงานเมืองทอง " พิตบูลโซน นนท์ "
    พร้อมและยินดีที่จะร่วมสนับสนุนการจัดงานในทุกๆด้านอย่างเต็มที่ครับ :033: :X
  • พรุ่งนี้ขอประชุมแบ่งงานด้วยเลยครับ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว อยากให้ทุกคนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพครับ
  • เป็นตับแข็งค่อยเลี้ยงได้ 555 :-))
  • ขอเป็นตับแข็งด้วยคนครับ ท่านเล็กเสี่ยวหงษ์ 555 :-))


    ปล.ตามสะดวกครับแล้วแต่เจ้าภาพ
  • จริงๆมือใหม่ไม่น่าจะเป็นตัวถ่วงหรอกครับ เพราะคนเหล่านี้น่าจะเป็นคนที่มีความพยายามมากกว่า มือเก่าซะด้วยซ้ำเพราะพวกเค้าด้อยประสบการณ์ย่อมต้องศึกษาและขวนขวายหาความรู้เข้าหาตัวเองอยู่แล้ว มือใหม่ตั้งใจจริงก็เยอะพวกบ้าเห่อก็เพียบมันก็ต้องปนๆกันไปแบบนี้เป็นธรรมดา
    :018:
  • อย่าแยกมือใหม่มือเก่าเลยครับ เอาเป็นว่าพวกตั้งใจจริงกับพวกเห่อตามกระแสแห่เป็นพักๆดีกว่า

    เชื่อหรือเปล่าว่าทุกวันนี้ มือใหม่หลายคน คือกำลังสำคัญที่ทำให้วงการเราก้าวมาที่จุดนี้
    แต่ในขณะที่มือเก่าบางคนอาจจะกำลังพยายามสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้วงการสะดุดอยู่ก็ได้ครับ :-D
  • ติดงานเย่อะ ยุ่งด้วย เพื่้อนรักก็ป่วยคงไม่เกินพรุ่งนี้ได้จี่กันแน่ แต่เข้ามาที่นี้แล้วสบายใจครับ กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • รักและเข้าใจ(บ้านิดๆๆๆๆ)
  • ถูกครับผมว่าเวทีสำหรับคนพร้อมครับและไฮไลท์อยู่ที่จะลากได้น้ำหนักเท่าไหร่กัน ฉะนั้นกล้าเรียกน้ำหนักกันทีละเยอะหน่อยงานได้จบทันเวลาด้วยครับ ข้อคิดผมนะครับ
  • ตอนนี้กำลังต้องการคนอาสาทำและออกแบบถ้วยครับ ใครมีฝีมือ มีไอเดีย เสนอตัว ด่วน
  • ขออนุญาติครับ

    หมาน้ำหนัก 43.5 กก.กับ หมาน้ำหนัก 48 กก.อยู่รุ่นเดียวกันหรือป่าวครับ
  • ถ้ายังไม่มีการแบ่งรุ่นเพิ่ม ก็รุ่นเดียวกันครับ
  • หาข้อมูลให้พร้อม ไปดูรุ่นเก่าๆเก๋าๆ เค้าแข่ง ตั้งเป้าและตั้งใจ
    ฝึกซ้อม มีวินัย ปฏิบัตตามกฏกติกาอย่างเคร่งคัด ภาพและเรื่อง
    ราวต่างๆ ในสนามมันได้ฟ้องว่า คุณและนักกีฬาของคุณ พร้อม
    แค่ไหนในการลงแข่ง ไม่เคยซ้อมพาลงแข่งหมาก็ไม่ลากต่อ
    หน้าคนดูกันทั้งสนาม หมาอายหรือเจ้าของอาย!!! ถ้าไม่พร้อม
    ซ้อมให้พร้อม ทำได้เท่าไรก็เท่านั้น เกมนี้มันอยู่ที่ตัวคุณกับนักกีฬา
    ของคุณเท่านั้น ตัวอื่นๆเป็นคู่เทียบเพื่อให้ทราบผลการแข่งขันเท่านั้น
    สิ่งที่คุณได้คือ ใจมันกับใจคุณ คนชนะแต่เอาเปรียบผู้อื่นจนชนะ
    ถามว่าชนะจริงมัย? ส่วนคนแพ้แต่แพ้เพราะเราสู้เค้าไม่ได้จริงๆไม่
    ใช่เรื่องว่าซ้อมไม่ถึง อย่างไหนประทับใจคนดูมากกว่ากัน...ลองคิดดู

    ตั้งแต่เริ่มลงแข่งขันกับกีฬานี้ ผมและนัำกกีฬาของผมไม่เคยชนะ
    เลยซะครั้ง (แต่มันชนะใจผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่วมลงแข่ง ถ้าจะจำกันได้
    สมัยที่ MoOdy ลงแข่งครั้งแรกมันลากบนพรม ล้ออัดลม 40ปอนด์
    ครั้งนั้นมันลากได้ 1600กว่าๆ ผมแทบไม่เชื่อว่ามันจะทำได้แ่ต่มันได้
    พิสูจน์ใจที่มันมอบให้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว)

    กลับมาที่เรื่องการแข่งขันการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่คณะกรรมการ
    ได้วางไว้ ไม่สร้างความลำบากใจให้กับใครต่อใครในสนาม ให้ความ
    ร่วมมือ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ลงแข่ง เรียนรู้จากผู้ไม่รู้อะไรเลยเรียนรู้เอง
    ฝึกฝนเอง ครูพักลักใจบ้าง สอบถามผู้รู้บ้าง ทำไปเรื่อยๆซะวันเราก็
    จะรู้ได้เอง ขอให้ใส่ใจตั้งใจฝึกฝน ซะวันจะเป็นวันของคุณ ผมก็เช่นกัน
    หวังว่าซะวัน MoOdy ของผมจะระเบิดฟอร์มออกมาให้เห็นบ้าง


    ขอให้โชคดีและมีความสุขกับสุนัขของคุณ
  • :063: พี่มุ๊ครับสุดยอดมาก

    จริงครับแค่ชนะตัวเองพอ แค่ให้สนุก
  • =D> พี่มุ๊ dogfunpark ^:)^
  • เนื่องจากสุนัขขนาดตำกว่า 20 กิโลกรัมมีอยู่เพียงตัวเดียว ขออนุญาติปรับรุ่นและน้ำหนักใหม่ดังนี้

    1. < 25.0 กก
    2. 25.1-28.0
    3. 28.1-31.0
    4. 31.1-34.0
    5. 34.1-37.0
    6. 37.1-40.0
    7. >40.00

    โดยแต่ละรุ่นจะมีช่วงน้ำหนักตัวห่างกันเพียง 3 กิโลกรัม ไม่ทราบว่าเห็นด้วยกันหรือไม่ ?
  • และใครที่ตั้งใจจะลงแข่ง โปรดเตรียมตัวกันไว้ให้พร้อมนะครับ
    การรับสมัครเราจะทำล่วงหน้าก่อนวันแข่งประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะได้มีเวลาเตรียมตัวพอสมควร
    และเปิดรับสมัครเพียง 7 วัน แล้วปิดเลย และไม่มีการรับสมัครหน้างานครับ

    จากประสบการณ์จัดงานหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนมากจะมาสมัครกันวันท้ายๆแทบทั้งหมด ผมจึงคิดว่า เรากำหนดวันรับสมัครที่ชัดเจนไปเลยน่าจะดีกว่า เพื่อลดงานของเจ้าหน้าที่ แต่ใครจะสมัครล่วงหน้าก็ไม่ว่ากันครับ แต่สมัครหลังจากที่กำหนดขออนุญาติไม่รับนะครับ :-D
  • เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะการแบกน้ำหนักตั้ง 4 กิโล นี่ก็เอาเรื่องอยู่เมือนกันนะครับ
  • รุ่นสุดท้าย 40.1 up ใช่หรือไม่ครับพี่
  • ผมขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
    รุ่นน้ำหนัก
    1. น้อยกว่า 24 กก.
    2. 24.1-28 กก.
    3. 28.1-32 กก.
    4. 32.1-36 กก.
    5. 36.1-40 กก.
    6. 40.1-44 กก.
    7. 44.1กก. ขึ้นไป

    รุ่นที่ 7. 44.1 ขึ้นไป ผมว่ามีนักกีฬาที่จะลงแข่งไม่น้อยกว่า 4 ตัวครับ นี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นนะครับ
    สุดท้ายก็แล้วแต่คณะกรรมการครับ

    ส่วนตัวผมมีนักกีฬาอยู่สามตัวครับ
    ตัวที่ 1. 16 กก.
    2. 34 กก.
    3. 38 กก.

    ขอบคุณที่จัดงานดีๆอย่างนี้ให้เราได้ร่วมสนุกกันครับ
  • ขอบคุณ สำหรับความคิดแบ่ง รุ่นของเฉินครับ

    พี่มองว่าการแบ่งจังหวะเว้นวรรค ช่วงน้ำหนัก weight 4 KG จะเยอะไปหน่อยครับ
    ยกตัวอย่างเช่น หมาผมครับ จูเนี่ยเคย ลงน้ำหนักได้ 36 และ บาเลย์ เคยน้ำหนัก ได้ถึง 32
    แต่จะเสียเปรียบ อย่างเห็นได้ชัด คือ ความ สูง และช่วงตัว และเป็นการสนับสนุนให้หมารุ่นใหญ่ ลด นน ลงมากินหมาเล็ก ยังสนับสนุนการแบ่งรุ่น 3 KG ครับ

    ทั้งนี้ปัจจุบัน หมา SITE ยักษ์ เกิน 45 KG เริ่มมีมากขึ้น หากมีการรับสมัครเกิน 3 ตัวผมขอเสนอให้เพิ่มรุ่นเป็น 8 รุ่น ครับ
  • เห็นด้วยในการเพิ่มรุ่นที่8อย่างที่พี่ยุทธว่ามาครับถ้ามีหมาเกิน3ตัวครับ ตัวอย่างที่ผ่านมาเช่นหมา40.5-41ไปแข่งกับหมา45-48หรือหมามากกว่านั้นข้อเสียเปรียบข่อนข้างเยอะครับต่างคนต่างฟิตคงสู้ฟิตใหญ่ไม่ได้เป็นส่วนมากครับแต่เล็กกว่าเก่งกว่าก็มีครับ ขอแสดงความคิดเห็นครับรุ่นอื่นๆห่างกันที่3-4ก.ก.ก็ได้ครับก็กินกันไม่มากเท่าไร ขอแสดงความคิดเห็นครับ ส่วนจะเป็นเท่าไรผมก็แล้วแต่ทางผู้จัดและพี่ๆแล้วกันครับ :-D
  • สวัสดีครับ

    ผมอยากให้พวกเราช่วยกันแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มากๆครับ เพราะจะได้ไม่ติดขัดคาใจครับ

    ใครคิดอย่างไรแสดงความคิดเห็นออกมาได้เลยนะครับ เพราะเราทุกคนที่เล่นกีฬาสุนัขลากน้ำหนัก

    ล้วนแต่มีส่วนช่วยผลักดันสิ่งดีดีทั้งนั้นครับ

    ลองนึกๆดูครับ I.W.P.A. ฝรั่งตาสีน้ำข้าวผู้บุกเบิกกีฬาชนิดนี้เค้าเลือกแบ่งรุ่นที่ ห่างกัน รุ่นละ 10 ปอนด์ เพราะ ?

    และในทุกๆวันนี้พวกเค้าเหล่านั้นก็ยังแบ่งกันแบบนี้ครับ ( 1 กก. = 2.225 ปอนด์ ) 10 ปอนด์ = 4.49 กก.

    พูดถึงตรงนี้ก็ขอขอบคุณ เวปไซด์ I.W.P.A. มา ณ ที่นี้ด้วยครับสำหรับข้อมูล

    ลองคำนวณน้ำหนักตามดูกันเองนะครับ และการแบ่งรุ่นเช่นนี้ยังสามารถช่วยให้สุนัขมีพัฒนาการที่แข็งแกร่งด้วย



    ทีนี้ลองหันมามองที่เมืองไทยของเราเองบ้างครับ

    เมื่อก่อนเลยเรายิ่งจะแบ่งกันที่ช่วงห่างที่ละ 5 กก. อันนี้มันห่างเกินไปครับ เพราะตัวสุนัขมันใหญ่กว่ากันเยอะ


    เราก็เลยปรับลดลงมาที่ห่างกันรุ่นละ 4 กก. อันนี้ที่เราใช้กันอยู่ ผมว่ากำลังดีครับเพราะ สุนัขมีขนาดไล่ๆกันดี

    หากแต่ถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้างนั้น เรื่องของความสูง หรือ เตี้ย เราควรพิจารณาให้เหมาะครับว่าสุนัขของเราเอง

    สามารถทำน้ำหนักที่ลากได้ที่สุดที่น้ำหนักตัวเท่าไหร่ ? หากเป็นแบบนี้ผมว่าเป็นการพัฒนาทั้งคนและสุนัขครับ


    หากเราแบ่งช่วงห่างเป็น รุ่นละ 3 กก. อันนี้ผมคิดว่า ช่องไฟ แคบ ไปหน่อยครับ เพราะมันใกล้กันมากเกินครับ

    ความแตกต่างระหว่างรุ่นยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องละเอียดในการแข่งขันในแต่ละรอบมากขึ้นตามฉะนั้นเรื่องเวลา

    ในการแข่งขันก็ต้องใช้เวลาเยอะตามครับ ( ซึ่งผมไม่อยากให้จำกัดเรื่องเวลามากนัก นักกีฬาจะได้ทำให้เต็มที่ )

    สาเหตุของการเสียเวลามาก ก็คือ เหลือสุนัขที่คู่คี่สูสีกันมากๆในรอบลึกๆ เพราะคู่แข่งในรุ่นไล่บี้กันรอบต่อรอบ

    ซึ่งจะดีมากๆหากสุนัขมีจำนวนน้อยครับ


    และอีกอย่างที่ผมขอให้ช่วยกันพิจารณาครับว่า หากจะเพิ่มเป็น 8 รุ่น ก็น่าจะเป็น รุ่น 44.1 ขึ้นไปครับ

    เพราะลองคิดๆดูสิครับว่า ถ้าที่หนึ่งมีน้ำหนักตัวเกือบๆ 50 กก. หรือ 50 กว่าโลเลยก็ได้

    แล้วที่สองกับที่สาม น่าจะต้องมีน้ำหนักตัวที่เท่าไหร่ครับ ? หากเรายังแบ่งรุ่นเท่าเดิมคือ รุ่นสุดท้าย >40.00 กก.

    เพราะในสภาวะการณ์ทุกวันนี้ เรามีสุนัขที่มีน้ำหนักตัวมากเกินกว่า 44 กก. มาร่วมแข่งขันในจำนวนไม่น้อย

    คิดอย่างน้อยๆก็ เกิน 3 ตัวอยู่ดีครับ เช่น ยักษ์ 46 กก. , บรองโก้ 46 กก. , ดุ๊ก 46 กก. , บรูตัส 48 กก. เป็นต้น

    ไหนจะมี อาเธอร์ , เรดบิ๊ก , ปิกัสโซ่ , ฮีโร่ อีก ( ขออนุญาติเอ่ยชื่อประกอบเพื่อยกตัวอย่างครับทุกท่าน )

    ผมมองเห็นภาพที่มีนักกีฬาเยอะๆและแฮนด์เล่อร์เยอะๆที่มาร่วมกันด้วยใจอย่างนี้แล้วเป็นปลื้มแทนวงการครับ

    เห็นด้วยเช่นกันกับผมมั้ยครับ


    ข้างบนนี้เป็นแนวความคิดของผมนะครับ หากตรงจุดไหน ที่ไม่เหมาะสม ผมก็ต้องกล่าวขออภัยด้วยครับ

    ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ
  • อีกอย่างสุนัขที่มีน้ำหนักตัวที่อยู่ในรุ่น 40.1 - 44.00 กก. ก็มีจำนวนไม่น้อยครับ
  • ผมว่าพิตบูลที่น้ำหนักเกิน 40 กก จะว่าไปแล้วลองรีดกันจริงๆก็ไม่น่าจะมีตัวไหนเกิน 45 ครับ
    แต่ถ้าตัวไหนที่ยังหนักเกินกว่า 45 ผมก้เชื่อว่าความจีดจาดแบบพิตบูลก็คงเหลืออยู่ไม่เท่าไร

    บรูตัสหนัก 41 ลากได้ 1,700 หนัก 48 ก็ลากได้ 1,700 ก็ไม่รู้จะหนัก 48 ไปเพื่ออะไร
    อย่างดุ๊กน้ำหนักเคย 48 แต่พอจับฟิตจริงๆ น้ำหนักก็เหลือเพียง 43 แถมได้การลากกระจายมาเป็นของแถมอีกต่างหาก 55
  • แล้วถ้ามีสุนัขเข้าแข่งขันที่มีน้ำหนักเกิน44kgมากกว่าสามตัวก็สามารถเพิ่มรุ่นได้ใช่หรือไม่
    แต่ถ้าไม่ถึงก็อิงตามเดิม เช่นเดียวกับรุ่นเล็กที่ถ้าไม่ถึงสามตัวก็ต้องลากอิงรุ่นถัดไป
    ประเด็นข้างต้นมันคล้ายๆกันนะครับ การแข่งขันลากน้ำหนักที่จัดขึ้นนี้เพื่อสร้างมิตรภาพ
    และความสุขให้กับพวกเรา

    ด้วยความเคารพครับ นี่เป็นความคิดเห็นของผมที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการแบ่งรุ่นเลยครับ
    ถึงจะแบ่งไม่แบ่งหมาผมก็ไม่มีทางได้MaxWeightอยู่ล้วครับ
    ขอบคุณพื้นที่ดีๆที่ให้ผมได้แสดงความคิดเห็น
    ด้วยความเคารพ

  • เรื่องรุ่นและพิกัดน้ำหนัก เราสามารถเพิ่มหรือลดได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีหมาเกิน 45 กกให้ความสนใจเยอะและมาลงแข่งจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ เพิ่มรุ่นได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเพิ่มไปเลย แล้วปรากฏว่ามีหมามาลงสองแค่สองหรือสามตัว แถมทำน้ำหนักได้น้อยกว่าที่หนึ่งของรุ่นที่เล็กกว่า มันก็ไม่มีผลการตัดสินอยู่ดี จึงไม่รู้จะเพิ่มไปเพื่ออะไรครับ

    การเพิ่มรุ่น สิ่งที่เราต้องทำแน่นอนก็คือ เราต้องเตรียมถ้วยไว้อีก 3 ใบ แต่ถ้าไม่มีหมาแข่ง ก็เสียของ อย่างเจ้าทองเทพ ลงแข่งตัวเดียว ในรุ่นน้ำหนักตัวน้อยกว่า 20 กก สนามที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถทำน้ำหนักชนะอันดับสุดท้ายของรุ่นถัดมา ก็ไม่มีผลการตัดสิน ถ้วยที่เตรียมไว้ก็เลยไม่ได้ถูกนำมาใช้ครับ
  • ถ้าเพิ่มรุ่นอีกมันก็มีปัญหาเพิ่มนะคับ ถ้าเพิ่มแล้ว หมาบางรุ่นมีน้อยตัว ก็มีปัญหานะ อย่างเช่นถ้วยก็ต้องทำเพิ่ม เงินราววัลก็ต้องหาเพิ่ม ให้รางวัลน้อยไปมันก็ไม่น่าพอใจสำหรับการได้ที่ 1ที่ 2 หรือที่ 3 ถ้าบางรุ่นมีหมา 3 - 5 ตัวยังไงก็ต้องได้รางวัลแน่ๆ 3 ตัว แล้วรางวัลก็มาแบ่งกับบางรุ่นมีหมา10 ตัวขึ้นไป แล้วได้รางวัลเท่ากัน มันก็น่าคิดนะคับ
  • ผมขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ ถ้าเราแบ่งรุ่นมีแค่ 3 กิโล มันก็ง่ายต่อการรีดหมาหรืออัดหมานี้จากรุ่นเดิมมันอาจทำให้บ้างรุ่นหมาอากเหลือน้อยผมว่าแบ่งแบบ 4 กิโล ก็ดีอยู่แล้วนะครับ :)>-
  • ถ้าแบ่งรุ่นละสี่โลตามเดิม ก็จะเหลือ 6 รุ่น เพราะรุ่นต่ำกว่า 20 กกก็คงมีทองตัวเดียวอยู่ดี หมาเล็กไม่มีใครฝึกมาเล่นเลย

    นี่คือเหตุผลที่ขอปรับรุ่นใหม่ เพราะไม่อยากเปิดรุ่นต่ำกว่า 20 กก มาเพื่อทองคัวเดียวครับ
  • เห็นด้วยกับอาจารย์คับแบ่ง3กิโลผมว่ากำลังพอดีมันดูไม่ห่างกันเกินไป :063:
  • จำได้ว่าตอนผมอยู่อเมริกา เคยไปดูการแข่งลาก เขาแบ่งรุ่นห่างกันรุ่นละ 5 ปอนด์ แต่หมาเขาเยอะมาก
    แต่บ้านเรามันใช้ระบบกิโลกรัม ผมก็เลยแบ่งรุ่นห่างกันรุ่นละ 3 กิโลกรัม แยกเพศผู้เมียด้วย เพื่อให้ง่ายและมันก็ไม่ต่างกันมาก
    ถ้าใช้หน่วยเป็นปอนด์ น้ำหนักที่โหลดก็ต้องใช้หน่วยปอนด์ ซึ่งบ้านเราไม่ค่อยคุ้นเคยหน่วยวัดนี้ อันนี้คือความเป็นมาในยุคแรกๆครับ
    แต่ในยุคน้อยหมาลงแข่งยังมีน้อยมาก แทบทุกงานจำนวนถ้วยจะมากกว่าจำนวนหมาที่สมัครแข่งเสมอ ตอนหลังเลยเปลี่ยนเป็น 5 กิโลกรัมครับ :-D
  • แบ่งเป็น 4 กิโลอย่างเดิมแล้วเปิดรุ่น 44.10 กิโล up ไงครับในรุ่นนี้มีหมาเกิน3ตัวแน่นอนครับ ถ้าแบ่ง3โลมันจะแคบไปนะครับประเด่นคือ"มันง่ายต่อการลดน้ำหนักหรืออัดน้ำหนัก"มันอาจทำให้บ้างรุ่นมีหมาน้อยลงนะครับ
  • ผมว่าอยู่ที่เราจะคับว่าต้องการให้หมาอยู่เวทไหนเราก็ทำน้ำหนักตามเวทและต้องรักษาน้ำหนักให้คงที่เพื่อเป็นการป้องกันแชมป์แต่ถ้าทำไม้ได้แชมป์เปลี่ยนหน้าแน่นอนคับผมว่าแบบนี้สนุกกว่าท้าทายกว่าและจะได้พิสูจน์ความมีวินัยของคนและหมาเพราะเวทีนี้มีแต่ผู้ที่แข็งแกร่งทั้งกายและใจคับ
  • ไม่แน่ใจว่าในบ้านเราหมาที่น้ำหนักตัวเกิน 44 โล มีตัวไหนบ้างครับ ใครพอจะมีข้อมูลลบ้าง อยากทราบจริงๆ
    แต่เอาน้ำหนักตัวจริงๆและสามารถลงแข่งลากได้นะครับ ไม่ใช่ประเภทอุดมไขมันและลงมาแค่แจกแต้มเฉยๆนะครับ
    การเปิดรุ่นขึ้นมาจะเปิดอีกกีรุ่นก็ได้ ถ้ามีจำนวนสุนัขลงมาแข่งมากพอ แต่ถ้ามีแค่สามสี่ตัว แข่งๆหายๆก็คงไม่ไหวครับ
    อยากให้เปิดรุ่นมาแล้วมีความสม่ำเสมอในการลงแข่งขันด้วย ถ้าแข่งสองสามตัว และทำน้ำหนักสู้รุ่นที่เล็กกว่าไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเปิดรุ่นให้เพื่ออะไรครับ :-D
  • อิงจากกระทู้พี่หนุ่มนะครับ ^^ ยักษ์ 46 กก. , บรองโก้ 46 กก. , ดุ๊ก 46 กก. , บรูตัส 48 กก. เป็นต้น
    ไหนจะมี อาเธอร์ , เรดบิ๊ก , ปิกัสโซ่ , ฮีโร่ อีก ( ขออนุญาติเอ่ยชื่อประกอบเพื่อยกตัวอย่างครับทุกท่าน )
    ประมาณนี้ครับ อีกอย่างที่ว่าแบ่ง3กิโลคือความหมายผมว่ามันแคบอ่ะครับ"มันง่ายต่อการลดน้ำหนักหรืออัดน้ำหนัก"เพื่อหนีไปจากรุ่นที่ตัวเองไม่อยากอยู่นะครับ 8->
  • จะไปเพิ่มรุ่นให้มันยุ่งยากอีกทำไมละท่าน พิตบูลใครเกิน 40 นี่ก็ถือว่าอยู่ในรุ่นเฮฟวี่เวทไปแล้ว ตัวเต็งก็ยังมีแค่ บรูตัสกับยักษ์เหมือนเดิม รอให้มีตัวไหนเกินกว่า45 แล้วเก่งกว่าสองตัวนั้นก่อน ก็ยังไม่สายครับ
  • -เพื่อโปรดพิจารณา

    เห็นด้วย...การแบ่งน้ำหนัก 3kg

    ไม่เห็นด้วย...การปล่อยรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่โดยไม่แบ่ง 3kg(18kg ปทะ 25kg /40kg ปทะ 48kg)

    ปัญหา...มีปัญหาเรื่องการเตรียมถ้วยรางวัล

    ข้อเสนอแนะ...ตรวจสอบจำนวนนักกีฬาที่มีแต่ละรุ่น รุ่นไหนนักกีฬาน้อย ก็ให้ขยับขึ้นรุ่นต่อไป(ตามความสมัครใจของผู้สมัคร) เราก็จะสามารถเตรียมถ้วยรางวัลได้แล้ว ไม่มีการสมัครหน้างาน...

    เป็นกำลังใจให้ผู้ช่วยงาน ผู้จัดงานทุกท่านนะครับ ... เสมอภาค เท่าเทียม นี่คือหลักของกีฬาครับผม
  • ดุ๊กน้ำหนักล่าสุดแค่ 43 ครับ บรูตัสช่วงฟิตๆก็แค่ 41-42 ถึงจะมีใครหนัก 50 มาลง แต่นาทีนี้ก็ไม่กลัวครับ
  • ตอนนึ้ก็เปิดให้ลงชื่ออยู่ครับ ถ้ามีนักกีฬาเยอะจริงแสดงความจำนงค์แต่เนิ่นๆ การเพิ่มรุ่นก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้ครับ
  • ใจจริงอยากลบ1 กก สำหรับเพศเมียด้วย ครับ จะได้มีคนนำตัวเมียมาแข่งมากขึ้น เพศเมียน้ำหนักจริงเท่าไร ลบออกหนึ่งโลเป็นน้ำหนักลงแข่ง